วันนี้ (5 ตุลาคม) พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำเหนือไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ว่าวันนี้ (เวลา 06.00 น.) ปริมาณน้ำของกรมชลประทานที่อำเภอบางไทรตรวจวัดปริมาณน้ำไหลผ่าน กทม. เฉลี่ย 3,088 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองตลาดของ กทม. อยู่ที่ระดับ 1.90 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งยังต่ำกว่าระดับคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาของ กทม. อยู่ประมาณ 1.10 เมตร จึงยังไม่ส่งผลกระทบในพื้นที่ กทม.
โดยวันนี้ฐานน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะขึ้นสูงสุดเวลา 19.10 น. ที่ระดับ +1.10 ม.รทก. (เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง)
สำหรับระดับน้ำแนวคันกั้นน้ำด้านตะวันออก ณ ประตูระบายน้ำคลองสอง (สายใต้) อยู่ในระดับปกติ +1.03 (ระดับวิกฤต +1.80) ประตูระบายน้ำแสนแสบ (มีนบุรี) อยู่ในระดับปกติ +0.65 (ระดับวิกฤต +0.90) ประตูระบายน้ำลาดกระบัง อยู่ในระดับปกติ +0.16 (ระดับวิกฤต +0.60)
โดยวันนี้ฐานน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะขึ้นสูงสุดเวลา 19.02 น. ที่ระดับ +1.14 ม.รทก. ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา (07.00 น.)
พื้นที่กรุงเทพมหานครมีฝนเล็กน้อย ปริมาณฝนสูงสุดวัดได้ที่จุดวัดสำนักงานเขตดอนเมือง 17.0 มิลลิเมตร (มม.) จุดวัดคลองดาวคะนอง เขตธนบุรี 15.5 มม. จุดวัดคลองแสนแสบ-คลองตัน เขตวัฒนา 15.5 มม. จุดวัดบ่อสูบศาลอาญารัชดา เขตจตุจักร 14.0 มม. ไม่มีรายงานจุดเร่งการระบายน้ำในถนนสายหลัก
อย่างไรก็ตาม กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ประเมินปริมาณฝนที่ตกหนักสะสมในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบนและลุ่มน้ำป่าสัก คาดว่ามีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในวันที่ 5 ตุลาคม 2564 ปริมาณน้ำจะไหลหลากรวมกันผ่านอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในเกณฑ์สูงสุด 3,050-3,150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะไหลออกสู่อ่าวไทยในช่วงวันที่ 7-10 ตุลาคม 2564 ประกอบกับในช่วงเวลาดังกล่าวเกิดสภาวะน้ำทะเลหนุนสูง คาดว่าจะส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 30-50 เซนติเมตร (ซม.) จึงขอให้ชุมชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา 11 ชุมชน 239 ครัวเรือน ในพื้นที่ 7 เขต ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ กทม. ได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำโดยจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังประจำจุด เครื่องสูบน้ำสำรอง เรือผลักดันน้ำ วัสดุอุปกรณ์ กระสอบทราย และอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมปฏิบัติการและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันทีเมื่อเกิดเหตุน้ำท่วม ตลอด 24 ชั่วโมง
พร้อมทั้งตรวจสอบความแข็งแรงและจุดรั่วซึมของแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สะพานพระราม 7 จนถึงบางนา ความยาวประมาณ 78.93 กิโลเมตร และเรียงกระสอบทรายเป็นเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) และบริเวณแนวป้องกันที่มีระดับต่ำตามจุดต่างๆ 14 จุด รวมระยะทาง 2,512 เมตร รวมทั้งตรวจสอบความพร้อมของสถานีสูบน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 97 สถานี และบ่อสูบน้ำตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่งในช่วงน้ำทะเลขึ้น
ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์น้ำผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักการระบายน้ำ https://dds.bangkok.go.th/ ตลอด 24 ชั่วโมง