วานนี้ (26 มีนาคม) ที่บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา เขตบางคอแหลม พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, แร็มโก ฟัน ไวน์คาร์เดิน (H.E. Mr. Remco van Wijngaarden) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย และคณะ ร่วมกิจกรรมเปิดตัวเรือดักเก็บขยะพลังงานแสงอาทิตย์ (Interceptor 019) ภายใต้โครงการความร่วมมือการจัดการขยะพลาสติกในแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยเรือดักเก็บขยะพลังงานแสงอาทิตย์
ชัชชาติกล่าวว่า โลกทั้งโลกเชื่อมกันด้วยสายน้ำ แต่สายน้ำก็นำพาขยะไปได้ด้วย หากเราไม่จัดการขยะที่ต้นทาง สุดท้ายขยะก็จะกองอยู่ในพื้นที่ส่วนกลางในมหาสมุทร สำหรับเรือดักเก็บขยะพลังงานแสงอาทิตย์นี้ ไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพในการเก็บขยะเท่านั้น แต่ยังมีประสิทธิภาพในอีก 2 ด้าน
- แสดงให้เห็นถึงความสำคัญในการร่วมมือกัน เพราะไม่มีทางที่ใครคนใดคนหนึ่งจะทำให้สิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นได้ ทุกคนต้องร่วมมือกัน เช่นในครั้งนี้ก็เป็นความร่วมมือกันของทั้งภาครัฐและเอกชน
- เป็นเครื่องเตือนใจว่าขยะทุกชิ้นมีเจ้าของ ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมในทิศทางที่ดีขึ้นด้วย
กรุงเทพมหานครขอขอบคุณที่เลือกกรุงเทพฯ เป็นที่ติดตั้งของเรือดักเก็บขยะพลังงานแสงอาทิตย์ (Interceptor 019) และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทำให้โครงการนี้เกิดขึ้นได้ กทม. จะร่วมมือกับทุกคนในการทำสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นต่อไป
ด้าน พล.ต.อ. พัชรวาท กล่าวว่า ในนามของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอขอบคุณในความร่วมมือของทุกภาคส่วน และขอชื่นชมในความมุ่งมั่นทุ่มเทในการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการป้องกันการรั่วไหลของขยะพลาสติกจากแผ่นดินลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาก่อนไหลลงสู่ทะเล
รวมทั้งมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมกิจกรรมเปิดตัวเรือดักเก็บขยะพลังงานแสงอาทิตย์ลำที่ 19 ของโลก (Interceptor 019) ในวันนี้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีในการบริหารจัดการขยะพลาสติกลอยน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะการแก้ไขปัญหามลพิษและปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากขยะพลาสติกต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจึงจะเกิดความยั่งยืนได้
สำหรับโครงการความร่วมมือการจัดการขยะพลาสติกในแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยเรือดักเก็บขยะพลังงานแสงอาทิตย์ (Interceptor) เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ราชอาณาจักรไทย และองค์กร The Ocean Cleanup ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ตลอดจนกรุงเทพมหานคร, สถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, บริษัท อีโคมารีน จำกัด, บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน), โคคา-โคล่า และหน่วยงานภาคีเครือข่าย
โดยทำการติดตั้งเรือดักเก็บขยะพลังงานแสงอาทิตย์หรือเครื่อง Interceptor ในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา ถนนพระราม 3 เขตบางคอแหลม ซึ่งกรุงเทพมหานคร โดยสำนักสิ่งแวดล้อม ได้สนับสนุนโครงการฯ ด้วยการดูแลรับผิดชอบการจัดเก็บและคัดแยกขยะที่ Interceptor 019 ดักจับได้ เพื่อนำพลาสติกกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล และกำจัดขยะประเภทอื่น ๆ อย่างเหมาะสมต่อไป
ในส่วนของเครื่อง Interceptor นั้น คิดค้นโดยองค์กร The Ocean Cleanup ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรด้านเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมชั้นนำระดับโลก ที่ดำเนินการด้านการจัดการขยะในทะเลจากราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ โดยการทำงานของเครื่อง Interceptor จะประกอบด้วยแผงทุ่นลอยน้ำที่โยงติดกับโรงเก็บขยะ ซึ่งมีลักษณะคล้ายแพเรือที่ทอดสมออยู่ในแม่น้ำ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์จากแผงโซลาร์เซลล์และทำงานด้วยระบบอัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องใช้แรงงานมนุษย์ในการควบคุม เป็นเครื่องดักขยะที่ช่วยลดปริมาณขยะในแม่น้ำเจ้าพระยาก่อนที่จะไหลลงสู่ทะเล สามารถเก็บขยะได้วันละ 50,000-100,000 ชิ้น ซึ่งแม่น้ำเจ้าพระยาเป็น 1 ในแม่น้ำ 15 สายของโลกที่จะมีนวัตกรรมดังกล่าวมาปฏิบัติการ
ทั้งนี้ การดูแลรักษาความสะอาด จัดเก็บขยะและวัชพืชในแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่การปฏิบัติงานตั้งแต่สะพานพระราม 7 ถึงวัดโยธินประดิษฐ์ สุดเขตบางนา ระยะทางประมาณ 34 กิโลเมตร เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. โดยจะจัดเก็บทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำและกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. เป็นประจำทุกวัน
อีกทั้งยังจัดกำลังเจ้าหน้าที่จัดเก็บวัชพืชและผักตบชวาเป็นพิเศษบริเวณสถานที่สำคัญๆ เช่น หน้าวัดอรุณราชวราราม ท่าน้ำศิริราช ซึ่งวัชพืชและขยะที่จัดเก็บได้จะนำไปขึ้นที่ท่าเรือ 3 แห่ง ได้แก่ ปากคลองบางกอกน้อย (ใต้สะพานอรุณอัมรินทร์) ใต้สะพานพุทธฯ (คลองโอ่งอ่าง) และใต้สะพานพระราม 9 (ฝั่งพระนคร) จากนั้นจะนำวัชพืชและขยะไปกำจัดที่สถานีกำจัดมูลฝอยหนองแขม