วันนี้ (12 มีนาคม) ทีมข่าว THE STANDARD ชวนผู้อ่านชมสภาพอากาศของกรุงเทพมหานครแบบมุมสูงจากบนเครื่องบิน ซึ่งจะเห็นฝุ่นละอองปกคลุมอาคารบ้านเรือนได้ชัดเจน แบ่งเป็นชั้นระหว่างท้องฟ้ากับเมือง
ข้อมูลจากเว็บไซต์ AirVisual เว็บไซต์สำรวจคุณภาพอากาศทั่วโลกแบบเรียลไทม์รายงานว่า กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย มีระดับค่าดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 130 US AQI (ดัชนีคุณภาพอากาศตามมาตรฐานของ US-EPA 2016 standard) เกณฑ์สีส้ม ที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายสำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง
ขณะที่ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กรมควบคุมมลพิษ รายงานว่า กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน 8 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 30-66 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร (มค.ก./ลบ.ม.) ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 50 มค.ก./ลบ.ม.
จากการคาดการณ์ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคมเป็นต้นไป สถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากลมทางใต้ช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ อย่างไรก็ตามช่วงระหว่างวันที่ 15-16 มีนาคม เป็นช่วงที่ควรเฝ้าระวังของพื้นที่ เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองข้ามพื้นที่ได้เช่นกัน
ทั้งนี้ แม้สถานการณ์ฝุ่นมีแนวโน้มที่ดี แต่ประชาชนควรเฝ้าระวังสุขภาพ เนื่องจากฝุ่น PM2.5 สามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราได้อย่างมากมาย เพราะฝุ่น PM2.5 เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กซึ่งสามารถเล็ดลอดเข้าจมูกไปสู่เส้นเลือดฝอยและกระจายไปตามอวัยวะได้ ผลกระทบเบื้องต้นคือเกิดการระคายเคืองต่อดวงตา แสบจมูก และส่งผลให้ผิวพรรณบริเวณใบหน้าเกิดริ้วรอย จุดด่างดำ เหี่ยวย่นง่าย และถ้าฝุ่นละอองสะสมอยู่ในอวัยวะเป็นเวลานานจะก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคมะเร็งปอด โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหอบหืด
ดังนั้นในช่วงที่ระดับฝุ่นยังส่งผลกระทบต่อร่างกาย ควรลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์
