วานนี้ (1 กุมภาพันธ์) พญ.วันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร รักษาราชการแทนปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตคลองสามวาถูกจับกุมจากการเรียกรับเงินค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียนว่า ตามนโยบายของกรุงเทพมหานคร (กทม.) คือ ‘โปร่งใส ไม่ส่วย’ ทาง กทม. จะเร่งสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการอย่างเด็ดขาดที่สุดภายใต้กรอบที่กฎหมายกำหนด
โดยได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว และในระหว่างนี้จะพิจารณาให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวพักราชการไว้ก่อน หากพบว่ามีความผิดวินัยร้ายแรง อัตราโทษคือการปลดออก หรือการสั่งให้ออกจากราชการ
สำหรับกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องสืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนว่าผู้อำนวยการคนดังกล่าวมีพฤติกรรมใช้อำนาจในทางที่ไม่เหมาะสม เรียกรับเงินจากคู่สัญญาหรือผู้ประกอบการที่ชนะการเสนอราคาโครงการจ้างเหมาประกอบอาหารสำหรับนักเรียน ภาคเรียนที่ 2/2565 ของโรงเรียน เป็นเงิน 329,000 บาท
โดยอ้างว่าจะนำไปปรับปรุงวัสดุ อุปกรณ์ โต๊ะ เก้าอี้ ภายในโรงอาหารของโรงเรียน และเรียกเก็บเพิ่มเติมเป็นเงินรายเดือนอีกเดือนละ 9,000 บาท พร้อมข่มขู่ผู้ประกอบการ หากไม่ยอมทำตามก็จะทำเรื่องยกเลิกสัญญา หรือทำเรื่องรายงานไปที่ กทม. ว่าผู้ประกอบการได้รับเงินส่วนต่างค่าอาหารเช้าจากการที่เด็กนักเรียนไม่มารับประทานอาหารเป็นเงินจำนวนมาก
ต่อมาทางกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) จึงวางแผนให้ผู้ประกอบการนำเงินไปส่งมอบให้กับผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวตามที่ร้องขอ ก่อนนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้พร้อมกับเงินของกลาง
ในความผิดฐาน ‘เป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด และเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ’ ภายในห้องทำงานของโรงเรียน