วันนี้ (8 กันยายน) วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร แถลงสถานการณ์น้ำท่วม-ฝนตกในพื้นที่ กทม. ตั้งแต่ช่วงบ่ายนี้เป็นต้นไป และอาจจะมีฝนตกจนถึงวันที่ 12 กันยายนนี้
วิศณุกล่าวว่า หากหลังจากนี้มีฝนตกลงมาต่อเนื่อง น้ำจะถูกเติมเข้าในพื้นที่โซนบางเขน หลักสี่ รังสิต และลาดกระบัง ฉะนั้นขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารของ กทม. ต่อเนื่อง เพราะทาง กทม. จะมอนิเตอร์และรายงานสถานการณ์ให้ทราบล่วงหน้า 3 ชั่วโมง
ส่วนเรื่องการจราจร การเดินทาง ช่วงเย็นนี้หากมีน้ำท่วมสูง ประชาชนสัญจรกลับบ้านไม่ได้ กทม. จะประสานและจัดเตรียมรถทหาร รถเทศกิจ บริการตามสถานีรถไฟฟ้าให้
สำหรับสถานการณ์น้ำตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยา จุดฟันหลอยังต้องเสริมความแข็งแรงให้แนวกั้น ขณะเดียวกันเครื่องสูบน้ำที่มีกำลังในการสูบน้ำสูง กทม. มีอยู่ไม่มาก แต่ในอนาคตมีแผนจะจัดหาซื้อต่อไป โดยในระหว่างนี้เครื่องสูบน้ำยังมีใช้งานเพียงพอในการแก้ปัญหา
ด้านณรงค์กล่าวว่า ตามปกติแล้วช่วงฤดูฝนในเดือนสิงหาคม-ตุลาคม ฝนตกหนักที่สุดจากทั้งปี เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมาบริเวณกรุงเทพเหนือ ฝั่งเขตดอนเมือง สายไหม หลักสี่ และส่วนหนึ่งของเขตบางเขนมีฝนในพื้นที่มาก ในวันนั้นปริมาณฝนสูงสุดที่วัดได้อยู่ที่ 178 มิลลิเมตร สาเหตุนอกจากฤดูฝนแล้ว ตามรายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า มีความกดอากาศสูงที่แผ่ปกคลุมมาจากประเทศจีน และรวมกับร่องมรสุมที่พาดผ่านทางตอนเหนือของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ปัญหาของน้ำเหนือที่ผ่านเข้ามาตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยา เช่นวันนี้น้ำที่ผ่านเข้ามาประมาณ 1,895 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ถือว่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อน้ำท่วมในพื้นที่ของกรุงเทพฯ มาก ส่วนน้ำหนุนจากทะเล เขื่อนที่ กทม. มีอยู่ถือว่าระดับความสูงของน้ำยังอยู่ในระดับที่เขื่อนรองรับได้เช่นกัน
