×

ปิดฉาก 48 วัน ภารกิจค้นหา-เก็บกู้ซากตึก สตง. ถล่ม กทม. แจ้งปิดศูนย์บัญชาการฯ ตำรวจอายัดที่เกิดเหตุต่อทันที

โดย THE STANDARD TEAM
13.05.2025
  • LOADING...
bangkok-building-collapse-search-ends

วันนี้ (13 พฤษภาคม) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักร ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อจัดการสถานการณ์อาคารก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่มหลังเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา โดยภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิตและเก็บกู้ซากอาคารได้เสร็จสิ้นลงแล้ว

 

ภัทร์กร สินสุข ผู้อำนวยการเขตจตุจักร ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์เฉพาะกิจฯ เปิดเผยว่า ศูนย์บัญชาการฯ ได้ปฏิบัติการมาเป็นเวลา 48 วัน และจะประกาศปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 พฤษภาคม เวลา 16.00 น. หลังเสร็จสิ้นการขนย้ายซากคอนกรีตและการค้นหาผู้รอดชีวิต ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่จำเป็นต้องใช้ถนนกำแพงเพชร 2 ในช่วงวันที่ 13-15 พฤษภาคม อาจพิจารณาหลีกเลี่ยงเส้นทาง เนื่องจากมีการขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์และเครื่องจักรหนักออกจากพื้นที่จะทำให้การสัญจรไม่สะดวก พร้อมกันนี้ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนที่ร่วมปฏิบัติภารกิจจนลุล่วง

 

ชัชชาติกล่าวเสริมว่า หลังจากนี้จะมีการส่งหนังสือแจ้งปิดภารกิจไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่ กทม. ได้ขอความร่วมมือ และแจ้งคณะกรรมการสอบสวนทางคดีว่าภารกิจหลักของ กทม. สิ้นสุดลงแล้ว อย่างไรก็ตาม หากมีหน่วยงานใดต้องการความช่วยเหลือต่อเนื่อง กทม. ยังคงพร้อมให้การสนับสนุน เช่น ห้องน้ำสาธารณะ หรือเครื่องสูบน้ำ เพื่ออำนวยความสะดวกในพื้นที่โดยรอบ

 

ด้าน พล.ต.ต. วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) เปิดเผยความคืบหน้าด้านการพิสูจน์หลักฐานว่า สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ได้รับร่างผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 89 ราย (80 ที่เป็นสภาพร่าง และเป็นอวัยวะอีก 9 ราย) สามารถพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลได้แล้ว 72 ราย และจะมีการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิต 86 ราย ในวันนี้เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ส่วนที่เหลือเป็นชิ้นส่วนที่ยังระบุตัวตนไม่ได้และบางรายครอบครัวอยู่ต่างประเทศ (เมียนมา) ยังไม่สามารถส่งดีเอ็นเอมาเปรียบเทียบได้

 

ในส่วนของวัตถุพยาน พฐก. ได้เก็บตัวอย่างเหล็ก 366 เส้น และคอนกรีตกว่า 200 ชิ้น จากอาคารที่ถล่ม รวมถึงแท่งคอนกรีตจากส่วนที่ไม่ถล่ม เช่น โถงทางเดิน ลิฟต์ และบันไดหนีไฟ โดยหลังวันที่ 15 พฤษภาคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะทำการอายัดสถานที่เกิดเหตุ 2 ส่วน คือ พื้นที่อาคารที่ถล่ม (ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2568) และกองซากปูนที่บางซื่อ (ถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2568) 

 

เพื่อให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งเป็นคณะทำงานที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้น สามารถเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อสืบสวนสาเหตุการถล่มต่อไป จากนี้การเข้าพื้นที่ในช่วงอายัดจะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาล (สน.) บางซื่อ

 

รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงการช่วยเหลือประชาชนว่า ได้ปิดรับการร้องขอความช่วยเหลือจาก 50 เขตแล้วเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม โดยมีผู้ยื่นเรื่องประมาณ 40,000 ราย ส่วนใหญ่ขอรับเงินเพื่อซ่อมแซมบ้านเรือน ยอดการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอยู่ที่ 176 ล้านบาท สำหรับค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงาน เช่น ค่าน้ำมันเครื่องจักรในพื้นที่อาคารถล่ม อยู่ที่ประมาณ 3,000 ลิตรต่อวัน 

 

โดยเฉพาะรถเครนมีค่าใช้จ่ายน้ำมันวันละประมาณ 200,000 บาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ยังไม่รวมค่าซ่อมบำรุงอุปกรณ์ที่เสียหายระหว่างปฏิบัติงาน ค่าจ้างผู้ประกอบการเอกชน และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบสองฝั่งถนนที่เกิดเหตุทาง กทม. ได้ทำเรื่องขอสนับสนุนกับทางภาครัฐแล้ว

 

รองผู้ว่าฯ ทวิดา ยังกล่าวด้วยว่า ในแต่ละวันมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในส่วนอาคารถล่มประมาณ 600-800 ราย และหากรวมพื้นที่โดยรอบจะมีเจ้าหน้าที่นับพันคน ซึ่งสะท้อนถึงความร่วมมือร่วมใจที่เข้มแข็งของทุกฝ่าย

 

ปิดฉาก 48 วัน ภารกิจค้นหา-เก็บกู้ซากตึก สตง. ถล่ม ปิดฉาก 48 วัน ภารกิจค้นหา-เก็บกู้ซากตึก สตง. ถล่ม ปิดฉาก 48 วัน ภารกิจค้นหา-เก็บกู้ซากตึก สตง. ถล่ม ปิดฉาก 48 วัน ภารกิจค้นหา-เก็บกู้ซากตึก สตง. ถล่ม ปิดฉาก 48 วัน ภารกิจค้นหา-เก็บกู้ซากตึก สตง. ถล่ม ปิดฉาก 48 วัน ภารกิจค้นหา-เก็บกู้ซากตึก สตง. ถล่ม ปิดฉาก 48 วัน ภารกิจค้นหา-เก็บกู้ซากตึก สตง. ถล่ม ปิดฉาก 48 วัน ภารกิจค้นหา-เก็บกู้ซากตึก สตง. ถล่ม ปิดฉาก 48 วัน ภารกิจค้นหา-เก็บกู้ซากตึก สตง. ถล่ม ปิดฉาก 48 วัน ภารกิจค้นหา-เก็บกู้ซากตึก สตง. ถล่ม ปิดฉาก 48 วัน ภารกิจค้นหา-เก็บกู้ซากตึก สตง. ถล่ม ปิดฉาก 48 วัน ภารกิจค้นหา-เก็บกู้ซากตึก สตง. ถล่ม ปิดฉาก 48 วัน ภารกิจค้นหา-เก็บกู้ซากตึก สตง. ถล่ม ปิดฉาก 48 วัน ภารกิจค้นหา-เก็บกู้ซากตึก สตง. ถล่ม ปิดฉาก 48 วัน ภารกิจค้นหา-เก็บกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising