วันนี้ (12 กันยายน) จักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงประเด็นการตัดลดงบประมาณกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ระบุว่าพบความผิดปกติในงบประมาณ กทม. ปี 2566 ของเขตจตุจักร ที่สภากรุงเทพมหานคร (สภา กทม.) ตัดงบประมาณสำนักระบายน้ำเขตจตุจักร แล้วนำงบฯ ไปพาคนท่องเที่ยวว่า
หลังเรื่องผ่าน สภา กทม. ได้มีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญขึ้นมาพิจารณา ซึ่งมีทั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) กับข้าราชการ และในส่วนของฝ่ายบริหาร ร่วมกันพิจารณา ซึ่งคราวนี้การพิจารณาไม่แตกต่างจากครั้งที่ผ่านมา โดยหลังผ่านการพิจารณา คณะกรรมการก็จะไปพิจารณาว่าโครงการไหน รายการใดที่จะสามารถผ่านไปดำเนินการใช้ในปีต่อไปได้ ยืนยันว่าคณะกรรมการวิสามัญไม่ได้ตัดงบฯ เกี่ยวกับเรื่องการระบายน้ำเลย แต่ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการวิสามัญชุดนี้ก็พิจารณาว่าโครงการไหนหรือรายการไหน อาจจะมีการเบิกจ่ายเงินล่าช้าหรือการทำงานไม่เป็นไปตามสัญญา ก็อาจจะมีการลดจำนวนงบลง แต่ยืนยันไม่มีการตัด
จักกพันธุ์กล่าวต่อไปว่า เฉพาะเขตจตุจักรใช้งบฯ ไปประมาณ 536 ล้านบาท ในรอบแรก คณะกรรมการวิสามัญตัดไปแค่ 60,000 บาท ซึ่งเป็นการพิจารณาเกี่ยวกับการก่อสร้างพื้นที่สีเขียว แต่หลังจากนั้นเขตจตุจักรคณะกรรมการพิจารณาแล้ว ผู้อำนวยการเขตแปรงบประมาณมากพอสมควร ประมาณ 20 ล้านบาทได้ ในจำนวนนี้ก็เกี่ยวกับเรื่องการขอเงินไปลอกท่อระบายน้ำเพิ่มเติม 3 ล้านบาท และทำฝาท่อระบายน้ำเพิ่ม 2 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการวิสามัญให้ผ่านหมด
ขณะเดียวกัน งบประมาณโดยรวมของสำนักงานเขตจุตจักร มีงบฯ เพื่อการแก้ไขน้ำท่วมขังประมาณ 20 ล้านบาท คณะกรรมการวิสามัญไม่ตัดเลย ซึ่งสำนักงานเขตจตุจักรได้ขอเงินโครงการดูงานสัมมนามา 5 โครงการ มีในส่วนของข้าราชการ ของเจ้าหน้าที่ สำนักงานเขตจตุจักร และทางชุมชน ซึ่งเป็นเรื่องที่สำนักงานเขตจตุจักรต้องการพิจารณาการทำงาน โดยประชาชนมีส่วนร่วมด้วย
จักกพันธุ์กล่าวด้วยว่า การแปรญัตติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ทุกอย่าง แต่ถ้าหากสำนักงานเขตใดจะขอยกเลิกโครงการก็ทำได้ ส่วนการศึกษาดูงานเป็นของข้าราชการ บุคลากร ลูกจ้างของสำนักงานเขต และพาชุมชนไปศึกษาดูงานที่ต่างจังหวัดของฝ่ายพัฒนาชุมชน ซึ่งก็เป็นการที่ทางสำนักงานเขตอยากนำลูกบ้านมาช่วยเหลือการทำงานของเขต และโครงการเช่นนี้มีมาทุกปี
“แต่ 1-2 ปีที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องโควิดจึงทำให้หายไป และเกิดความเหินห่างของคนในชุมชนและเขต ดังนั้นจึงเป็นการประสานความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิด” จักกพันธุ์กล่าว
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าเป็นการพาหัวคะแนนไปเที่ยวนั้น จักกพันธุ์ชี้แจงว่า คนที่ไปศึกษาดูงานเป็นใครนั้นขึ้นอยู่กับทางสำนักงานเขต การจัดสรรงบประมาณเป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร
“โครงการต่างๆ ไม่ได้เป็นโครงการพาคนไปเที่ยว แต่เป็นการพาไปศึกษาดูงาน ไม่มีโครงการไปเที่ยวแน่นอน” จักกพันธุ์กล่าวในที่สุด