ผ่านไป 6 วันหลังเหตุระเบิดป่วนกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1-2 สิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ (8 ส.ค.) พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำทีมแถลงข่าวสรุปภาพรวมและความคืบหน้าของคดี
พลตำรวจโท สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าทีมสอบสวนคดี อธิบายว่าเหตุระเบิดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม เวลาประมาณ 15.40 น. พบวัตถุต้องสงสัย 2 ชิ้นซุกซ่อนไว้ในพุ่มไม้ที่ป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม เวลาประมาณ 6.00-9.00 น. เกิดเหตุระเบิดที่ทางเข้าออกศูนย์ราชการ อาคารบี 2 ครั้ง, เกิดเหตุระเบิดหน้ากองบัญชาการกองทัพไทย 1 ครั้ง, เกิดเหตุระเบิดที่หน้าอาคารมหานคร 2 ครั้ง และที่หน้าสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 1 ครั้ง รวมถึงเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ร้านค้าย่านประตูน้ำ 4 จุด และร้านค้าย่านสยาม-ปทุมวันอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งจากพยานหลักฐานที่ตรวจเก็บได้เป็นระเบิดแสวงเครื่อง ซึ่งประกอบระเบิดในลักษณะเดียวกัน
จากการสอบสวนเหตุระเบิดและเหตุเพลิงไหม้ทั้งหมดเชื่อว่าการกระทำของคนร้ายมีลักษณะเป็นขบวนการ แบ่งแยกหน้าที่กันลงมือทำ มีการอำพรางตัวเข้าไปก่อเหตุ อุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุมี 2 ประเภทคือ ระเบิดจุดชนวนด้วยแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) และอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้
หัวหน้าทีมสอบสวนคดีอธิบายว่าหากจัดกลุ่มผู้ก่อเหตุจะเป็น 4 กลุ่ม
- กลุ่มที่ 1 คือระดับผู้บงการสูงสุด หรือ Mastermind หากเปรียบกับองค์กรเอกชนคือระดับบอร์ดบริหาร
- กลุ่มที่ 2 คือกลุ่มวางแผนและจัดหาคน หรือระดับ MD
- กลุ่มที่ 3 คือกลุ่มสนับสนุน ซึ่งมีทั้งก่อนก่อเหตุ ขณะก่อเหตุ และหลังก่อเหตุ ซึ่งกลุ่มนี้มีทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจสนับสนุน
- กลุ่มที่ 4 คือกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีมากกว่า 15 คน บางส่วนหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ขณะที่ผู้ลงมือปฏิบัติจะไม่ค่อยทราบแนวคิดที่แท้จริงของกลุ่มระดับ Mastermind
หัวหน้าทีมสอบสวนคดีเปิดเผยว่าคดีนี้มีการสอบสวนซักถามพยานและผู้ต้องสงสัยรวมกันมากกว่า 100 คน โดยบางส่วนเรียกมาคุยแล้วก็ให้กลับไป
ขณะนี้ยังไม่ตัดประเด็นใดและยังไม่ระบุชื่อกลุ่มที่อยู่เบื้องหลัง หรืออาจจะมาจากการแสวงจุดร่วมกันระหว่างกลุ่มการเมืองกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ โดยขณะนี้ได้ออกหมายจับแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องสงสัย 2 คนซึ่งก่อเหตุที่ป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติคือ ลูไอ แซแง อายุ 22 ปี และวิลดัน มาหะ อายุ 29 ปี ในข้อหาอั้งยี่ มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง และพยายามฆ่า
ขณะที่ พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ระบุว่าตำรวจมีข้อมูลมากกว่าที่แถลงข่าวในวันนี้ แต่ไม่สามารถเปิดเผยอะไรได้มาก เพราะจะทำให้คนร้ายเคลื่อนไหว
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวด้วยว่าจากประสบการณ์ส่วนตัวในคดีระเบิดพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบัน 80-90% เกี่ยวข้องกับการเมือง จากประสบการณ์ส่วนตัวจึงให้น้ำหนักคดีระเบิดล่าสุดนี้ไปที่เรื่องการเมือง
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเปิดเผยด้วยว่าสองผู้ต้องสงสัยให้การเป็นประโยชน์ในภาพรวม
ขณะที่ในเป้ของผู้ต้องสงสัยเตรียมชุดมาเปลี่ยนถึง 5 ชุด ก่อนจะถูกจับกุมได้ระหว่างหลบหนีที่จังหวัดชุมพร โดยทั้งสองคนนี้มีประวัติการก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์