วันนี้ (22 เมษายน) ผู้สื่อข่าวรายงานข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยธนาคารกรุงเทพเปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2563 มีรายละเอียดสำคัญดังนี้
- กำไรสุทธิไตรมาส 1/2563 อยู่ที่ 7,671 ล้านบาท ลดลง 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากผลขาดทุนสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน ซึ่งเป็นไปตามสภาวะตลาดเงินและตลาดทุนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 19,820 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นจากเงินให้สินเชื่อที่ขยายตัวขึ้น และการเปลี่ยนวิธีการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อโดยใช้วิธีอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทยปรับลดอัตราเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (จาก 0.46% เหลือ 0.23%)
- รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 6,574 ล้านบาท ลดลง 36.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากมีผลขาดทุนสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลง 5.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 2.52% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ระดับ 2.48%
- ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอยู่ที่ 11,377 ล้านบาท ลดลง 6.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) อยู่ที่ 3.5% เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2562 ที่อยู่ระดับ 3.4%
- สินทรัพย์รวมของธนาคารอยู่ที่ 3.21 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2562 ที่อยู่ระดับ 3.23 ล้านบาท
ทั้งนี้ทางธนาคารกรุงเทพระบุว่า ไตรมาสแรกของปี 2563 เศรษฐกิจไทยหดตัวอย่างหนักจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทางธนาคารจัดให้มีมาตรการป้องกันและดูแลการติดเชื้อ โดยมีการประชุมในระดับฝ่ายจัดการอย่างใกล้ชิด และจัดการปรับเปลี่ยนการป้องกันให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลานับแต่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 43.1% สำหรับผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นสำหรับไตรมาสแรกลดลงมาก เนื่องจากไตรมาสก่อนมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษเพื่อเสริมสร้างระดับสำรองของธนาคารให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นตามหลักความระมัดระวัง ก่อนการเริ่มใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 (TFRS 9)
ขณะที่ฐานะการเงินและเงินกองทุนของธนาคาร ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2563 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 2,115,950 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7% จากสิ้นปี 2562 เพิ่มขึ้นจากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่และสินเชื่อกิจการต่างประเทศ สำหรับอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ 3.5% ขณะที่เงินสำรองของธนาคารยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 203.9% ของเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
