บางจากขึ้นแท่นผู้นำโรงกลั่นด้วยกำลังผลิต 3 แสนบาร์เรลต่อวัน หลังปิดดีลฮุบเอสโซ่ 2.2 หมื่นล้านบาท ทยอยรีแบรนด์ภายในสิ้นปีนี้ ดันเครือข่ายสถานีบริการ 2,200 สถานี ตั้งเป้ารายได้ 5 แสนล้านบาทในปี 2567 พร้อมมองนโยบายลดราคาน้ำมันของรัฐบาลใหม่ แนวทางที่เป็นไปได้คือการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ช่วยให้ราคาขายปลีกภายในประเทศปรับตัวลดลงได้
ปิดฉากปั๊มเสือ ‘Esso’ อย่างเป็นทางการ หลังอยู่คู่คนไทยมานาน 129 ปี โดยจะให้บริการถึงวันนี้ 31 สิงหาคมนี้ เป็นวันสุดท้าย ก่อนเปลี่ยนไปใช้ชื่อ ‘บางจาก’ ทั่วประเทศ
ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บางจากได้ดำเนินการชำระราคาซื้อ-ขายหุ้นสามัญของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จำนวน 2,283,750,000 หุ้น คิดเป็น 65.99% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของเอสโซ่ในราคาประมาณ 9.8986 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 22,605,926,000 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ESSO ถึงตอนอวสาน 31 ส.ค. นี้ ปิดตำนาน 129 ปี ปั๊มน้ำมันสัญชาติอเมริกันในประเทศไทย สู่บทใหม่ที่ชื่อ ‘บางจาก’
- น้ำมันแลกข้าว’ ถึง ‘ทอดไม่ทิ้ง’ ถอดรหัสธุรกิจ ESG กับที่มาของคำว่า DNA บางจาก
- ส่องธุรกิจโรงกลั่นและปั๊มน้ำมันของ บางจาก หลังจ่อปิดดีลซื้อ เอสโซ่
การซื้อ-ขายหุ้นครั้งนี้จะส่งผลให้บางจากขึ้นแท่นเป็นผู้นำธุรกิจโรงกลั่น มีกำลังการกลั่นรวมประมาณ 3 แสนบาร์เรลต่อวัน แบ่งเป็นโรงกลั่นบางจาก พระโขนง ประมาณ 1.2 แสนบาร์เรลต่อวัน และจากโรงกลั่นบางจาก ศรีราชา ประมาณ 1.74 แสนบาร์เรลต่อวัน
ทยอยรีแบรนด์ปั๊ม 200 แห่งภายในสิ้นปี
ขณะเดียวกันหลังจากนี้บริษัทจะปรับสูตรน้ำมันปั๊มเอสโซ่ทุกแห่งมาเป็นน้ำมันสูตรบางจากภายใน 30 วันนับจากนี้ และจะทยอยรีแบรนด์ปั๊มของเอสโซ่ที่มีประมาณ 200 กว่าแห่งให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน ส่วนที่เหลือที่เป็นของดีลเลอร์กว่า 550 แห่ง คาดว่าจะใช้เวลาภายใน 1 ปีครึ่ง ภายใต้เงื่อนไขให้ใช้แบรนด์เอสโซ่ได้ภายในไม่เกิน 2 ปี รวมทั้งสิ้นบางจากจะมีปั๊มน้ำมัน 2,200 สถานีบริการ
มั่นใจคืนทุนภายใน 5 ปี รายได้แตะ 5 แสนล้านภายในปี 2567
ชัยวัฒน์กล่าวอีกว่า บริษัทคาดว่าปีนี้จะรับรู้รายได้จากการซื้อเอสโซ่เข้ามาบางส่วน ทำให้บริษัทมีรายได้ 380,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี 312,202 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 500,000 ล้านบาทในปี 2567 มั่นใจว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 5 ปี ทำให้ภาพรวมธุรกิจมีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น มีปั๊มให้บริการที่เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของหุ้นที่เหลืออีก 34.01% บางจากจะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่เหลือทั้งหมดของเอสโซ่ (ประเทศไทย) ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน – 12 ตุลาคม 2566
ชัยวัฒน์กล่าวอีกว่า พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลยังคงมีความสำคัญควบคู่ไปกับการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งมากกว่า 90% ของรถยนต์ในประเทศยังเป็นรถที่ใช้น้ำมันอยู่ และมีความต้องการใช้น้ำมันไปอีกนาน 35-40 ปี
“ส่วนนโยบายลดราคาพลังงานของรัฐบาลใหม่ที่ประกาศว่า จะสามารถลดได้ทันทีหลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกนั้นส่วนตัวมองว่า จริงๆ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าโครงสร้างราคาน้ำมันประกอบไปด้วยหลายส่วนที่ต้องพิจารณา โดยราคาน้ำมันนั้นแนวทางที่เป็นไปได้คือ การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน น่าจะช่วยให้ราคาขายปลีกภายในประเทศปรับตัวลดลงได้” ชัยวัฒน์กล่าวทิ้งท้าย