×

บาหลี เกาะเพื่อนบ้าน หนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับทริปฤดูร้อนนี้ของคุณ

16.03.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • เกาะบาหลี ได้รับการจัดอันดับจากเว็บไซต์และไกด์บุ๊กท่องเที่ยวชื่อดังมากมายให้เป็นหนึ่งในสุดยอดจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างอยากจะลองมาเยือนดูสักครั้ง แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีข่าวเกี่ยวกับการปะทุของภูเขาไฟอากุง แต่ก็ไม่ทำให้มนต์เสน่ห์ของที่นี่ลดลงแม้แต่น้อย

เมื่อฤดูร้อนมาถึง สิ่งที่ใครหลายๆ คนคิดถึงคงจะเป็นการนั่งชิลล์ที่ริมทะเล จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ฟังเสียงคลื่น และปล่อยให้กระแสลมปะทะกับตัวเราเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดและความเหนื่อยล้าที่สะสมมาจากการทำงานตลอดทั้งปี หน้าร้อนจึงเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่เหมาะที่สุดที่จะใช้โควตาวันลาพักร้อนออกไปหาความสุขให้กับตัวเอง

 

เมื่อช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปพักร้อนที่เกาะบาหลี 4 วัน 3 คืน นี่เป็นการเดินทางไปอินโดนีเซียครั้งแรกของผม ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีข่าวตามหน้าสื่อต่างๆ ว่าภูเขาไฟอากุงบนเกาะบาหลีมีทีท่าว่าจะปะทุและระเบิดขึ้น แต่เมื่อตรวจเช็กเรื่องความปลอดภัยแล้ว ตั๋วเครื่องบินพร้อม กระเป๋าเดินทางพร้อม พ็อกเก็ตมันนี่และใบลาก็พร้อม ผมจึงไม่ลังเลเลยที่จะใช้ทริปแรกในหน้าร้อนนี้ของผมบน เกาะบาหลี เกาะที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘อัญมณีแห่งมหาสมุทรอินเดีย’

 

 

วัดบนผาสูงชัน คลื่นสีขาว และพระอาทิตย์ยามเย็น

หลังจากที่ขึ้นเครื่องบินบินตรงสู่สนามบินนานาชาติงูระห์ไรบนเกาะบาหลีก็ราวๆ เที่ยงพอดี แต่กองทัพก็ต้องเดินด้วยท้อง จึงหาร้านนั่งรับประทานอาหารเที่ยง ก่อนมุ่งหน้าสู่ วัดอูลูวาตู (Uluwatu Temple) สถานที่ท่องเที่ยวแรกที่จะเปิดทริปในครั้งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตบาดุง ทางตอนใต้ของเกาะบาหลี เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงห้อมล้อมด้วยต้นไม้สีเขียว ตัดกับคลื่นทะเลสีขาวที่อยู่เบื้องล่าง มีบันไดทอดยาวตลอดเนินยอดเขา เรียกได้ว่าแดดหน้าร้อนในชั่วโมงนั้นยังต้องยอมแพ้ให้กับลมทะเลและความสวยงามของทิวทัศน์ที่อยู่ตรงหน้า แต่ต้องระวังลิงเจ้าถิ่นแถวนั้นด้วยนะ อยากบอกว่าแอบร้ายกาจกว่าลิงเขาสามมุกที่บางแสนบ้านเราเสียอีก

 

 

แอบกระซิบด้วยว่าที่วัดแห่งนี้จะมี ระบำเกอจัก (Kecak Dance) การแสดงพื้นเมืองของชาวบาหลีที่หาดูได้ยาก ที่ผู้แสดงเกือบทั้งหมดจะเป็นผู้ชายและร่วมกันร้องประสานเสียงคำว่า ‘เกอจักๆๆ’ ที่เลียนแบบเสียงร้องของลิง โดยมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับมหากาพย์รามายณะ แต่ทริปในครั้งนี้ของผมเอ็กซ์คลูซีฟขึ้นอีกนิด คือช่วงที่ผมไปที่วัดแห่งนี้ตรงกับช่วงเทศกาลที่ชาวบาหลีประกอบพิธีกรรมทางศาสนาในช่วงนั้นพอดี จึงมีโอกาสได้เห็นวิถีชีวิตและพิธีกรรมโบราณของคนบนเกาะ รวมถึงการแสดงพื้นบ้านอีกชุดที่เกิดขึ้นขณะประกอบพิธีกรรมทางศาสนาจริงๆ

 

 

แดดร่มลมตก การเดินเล่นชายหาดในยามเย็นก็เป็นไอเดียที่ไม่เลวเลยทีเดียว ชายหาดจิมบารัน (Jimbaran Beach) ที่อยู่ไม่ไกลจากวัดอูลูวาตูจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ผมจะฝากท้องกับอาหารทะเลใต้แสงเทียน ดื่มด่ำบรรยากาศยามเย็น และชมพระอาทิตย์ตก ปิดทริปวันแรกที่เกาะบาหลีอย่างสวยงาม

 

 

ประตูข้ามกาลเวลาและอากุง

เริ่มทริปวันที่ 2 ด้วยการไปเยือน วัดเล็มปูยัง (Pura Lempuyang Temple) วัดเก่าแก่ที่สะท้อนศิลปวัฒนธรรมของชาวบาหลีตามคติความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ที่แบ่งพื้นที่ของวัดเป็น 3 ส่วนเหมือนกับร่างกายมนุษย์ (ส่วนศีรษะ ร่างกาย และปลายเท้า) โดยชั้นบนสุดจะเป็นที่ประทับขององค์พระศิวะ หนึ่งในเทพเจ้าสูงสุด 3 พระองค์ (ตรีมูรติ) ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู

 

 

สิ่งที่เป็นไฮไลต์ที่สุดของที่นี่คงหนีไม่พ้นประตูหินขนาดใหญ่ที่ให้ความรู้สึกราวกับประตูต่างมิติข้ามกาลเวลาที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟอากุง หนึ่งในภูเขาที่ยังคงมีพลังบนเกาะบาหลีแห่งนี้ แต่น่าเสียดายที่วันนี้มีเมฆค่อนข้างมาก จึงทำให้เห็นภูเขาไฟอากุงไม่ชัดเจน ราวกับว่าเกาะบาหลีกำลังเชื้อเชิญให้ผมต้องกลับมาที่นี่อีกครั้ง หากต้องการจะชมความสวยงามของภูเขาไฟอากุงด้วยตาตัวเอง

 

 

ผมเดินทางต่อไปยัง ตีร์ตากังกา (Tirta Gangga) อดีตพระราชวังเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี 1948 โดยกษัตริย์ของการางาเซ็ม (Karangasem) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างความเป็นบาหลีและศิลปะแบบจีน สระน้ำขนาดใหญ่ที่มีแท่นหินให้นักท่องเที่ยวเดินไปยังกลางสระเพื่อถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ ในสระจะเต็มไปด้วยปลาคาร์ปหลากหลายสีสัน สัตว์มงคลตามความเชื่อของชาวจีนที่คุณเห็นแล้วอาจจะต้องร้องว้าว เพราะปลาบางตัวใหญ่กว่าท่อนขาพวกเราเสียอีก

 

 

มาถึงบาหลีทั้งทีจะไม่แวะ หมู่บ้านสิเบตัน (Sibetan Village) เพื่อชิมสละสดๆ จากสวนผลไม้ขึ้นชื่อของเกาะแห่งนี้เห็นทีคงจะไม่ได้ แม้ว่าคนไทยอย่างเราๆ จะคุ้นหน้าคุ้นตากับเจ้าผลไม้ชนิดนี้กันเป็นอย่างดี แต่ผมรับรองว่ารสชาติของสละบาหลีไม่เหมือนรสชาติสละที่เราเคยกินอย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าถ้าได้ลองชิมแล้วคุณอาจจะต้องยอมเสียพื้นที่กระเป๋าให้กับสละบาหลีอีกหลายกิโลฯ ในตอนขากลับก็เป็นได้

 

 

ส่วนเรื่องอาหารการกิน ผมสังเกตจากอาหารในหลายโรงแรมที่ผมพัก อาหารส่วนใหญ่มีเครื่องเทศและสมุนไพรเป็นส่วนประกอบหลัก และมักจะรับประทานกับน้ำจิ้มถั่วที่คล้ายกับน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะบ้านเรา ใครเป็นสายสะเต๊ะแล้วล่ะก็ต้องฉีกยิ้มกว้างๆ เลยทีเดียว เพราะอาหารที่นี่ถูกปากแน่นอน แต่ถ้าใครคิดถึงเนื้อหมู โรงแรมหรือร้านอาหารบางแห่งก็มีเนื้อหมูให้รับประทานด้วยเช่นกัน เพราะว่าคนที่นี่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ซึ่งแตกต่างจากคนอินโดนีเซียในพื้นที่อื่นๆ ที่เป็นชาวมุสลิม

 

 

ปลุกความเป็นแดจังกึมในตัวคุณ พร้อมดำดิ่งสู่ใต้ท้องทะเลบาหลี

กิจกรรมในวันที่ 3 ของผมอาจจะต้องเปิดริงโทนเพลง Oh Na Ra ของซีรีส์ แดจังกึม ประกอบบรรยากาศ เพราะวันนี้ผมจะจับกลุ่มกับก๊วนพี่ๆ ที่มาด้วยทดลองทำอาหารของชาวบาหลีดู แค่นึกก็สนุกแล้ว ถ้าคุณอยากจะลองทำอาหารพื้นเมืองแบบผมดู คุณสามารถสอบถามบริการนี้ได้จากโรงแรมที่คุณพัก

 

 

แสงแดดที่สาดส่องลงมาจะกระตุ้นให้คุณรู้สึกอยากกระโจนลงทะเลให้รู้แล้วรู้รอด แต่จะช้าอยู่ไย เพราะโรงแรมที่พักส่วนใหญ่ในบาหลีต่างมีบริการดำน้ำดูปะการัง แหวกว่ายกับฝูงปลานับพัน เป็นกิจกรรมใต้น้ำที่คุณห้ามพลาดเมื่อมาถึงบาหลี ดำน้ำเสร็จแล้วก็ขึ้นมานั่งพักให้พอหายเหนื่อย จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ซึมซับบรรยากาศ ก่อนที่จะต้องเตรียมตัวบินกลับไทยในวันรุ่งขึ้น

 

 

สำหรับใครที่สนใจจะมาเยือนเกาะสวรรค์แห่งนี้ ทางการบาหลีประกาศว่าคุณยังสามารถเดินทางมาเที่ยวที่บาหลีได้ แม้ในช่วงเวลาที่อาจจะมีข่าวการปะทุของภูเขาไฟอากุง แต่อาจจะต้องตรวจเช็กข้อมูลของสถานการณ์และความปลอดภัยอย่างละเอียด เพราะภูเขาไฟลูกนี้ตั้งอยู่ห่างจากโซนท่องเที่ยวอื่นๆ ที่สำคัญ เช่น ชายหาดเซมินยัก (Seminyak Beach) หรือชายหาดกูตา (Kuta Beach) เป็นระยะทางไกลกว่า 70 กิโลเมตรเลยทีเดียว

 

 

ธรรมชาติที่สวยงาม ประกอบกับเอกลักษณ์และวัฒนธรรมแบบบาหลี มนต์เสน่ห์ของประเทศเพื่อนบ้านที่ถ้าคุณยังไม่เคยไปก็น่าจะหาโอกาสไปลองสัมผัสดูสักครั้ง สิ่งหนึ่งที่ผมนึกถึงทุกครั้งเมื่อพูดถึงเกาะบาหลีคือคำพูดของคุณลุงท่านหนึ่งที่สอนให้ผมพูดคำว่า ขอบคุณครับ (Suksma) ที่ชาวบาหลีนิยมพูดกัน และดันคล้ายกับภาษาไทยจนพานให้ผมนึกถึงประโยคที่ว่า ‘สุขทุกครั้งที่มา’

 

อย่ามัวลังเลอยู่เลย ใช้โควตาลาพักร้อน จองตั๋ว จองโรงแรม เก็บกระเป๋าเสื้อผ้า แล้วไปบาหลีกัน

 

การเดินทาง: สายการบินแอร์เอเชีย เปิดเส้นทางบินตรงจากสนามบินดอนเมือง-สนามบินเดนปาซาร์ งูระห์ไร ของเกาะบาหลีทุกวัน


ที่พักแนะนำสำหรับนักเดินทาง

  • Fashion Hotel Legian ที่อยู่ไม่ไกลจากชายหาดลีเจียน เหมาะสำหรับสายแฮงเอาต์ โทร. +62 361 8496688, www.fashionbalilegian.com
  • Puri Satrian ที่มีบริการ SeaWalker และคลาสสอนทำอาหารพื้นเมืองบาหลี โทร. +62 361 288009, satrian.com/puri
  • Candi Beach Resort & Spa กับวิวของท้องทะเลกว่า 180 องศาในเขตการางาเซ็ม โทร. +62 363 41234, www.candibeachbali.com
  • The Trans Resort Bali ที่อยู่ไม่ไกลจากหาดเซมินยัก พร้อมสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ โทร. +62 (0361) 8981234, www.transresortbali.com
  • LV8 Resort Hotel ที่ตกแต่งด้วยผลงานศิลปะทั่วทั้งตัวอาคาร ตั้งอยู่ห่างจากหาดกูตาเป็นระยะทางเพียง 13 กิโลเมตร โทร. +62 (0361) 8948888, www.lv8bali.com
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X