อย่างที่ทราบกันดีว่า เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมาเราได้เห็นคอลเล็กชันครบรอบ 100 ปีของ Gucci ที่มีชื่อว่า Aria แล้วได้พบกับการร่วมงานครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมแฟชั่น เมื่อ Gucci จับมือ Balenciaga แบรนด์ร่วมบ้าน Kering ทำสินค้าแฟชั่นออกมาให้เราได้เห็นเป็นขวัญตา โดยเพื่อไม่ให้เป็นการปรบมือข้างเดียว คราวนี้ถึงตาของ Balenciaga ปล่อยของสู้ Gucci ผ่านคอลเล็กชัน Spring 2022 ที่มีชื่อว่า Clones และส่งสารให้ผู้ชมคิดตามว่าใครคือของจริงใครคือของปลอม
ก่อนจะเริ่มโชว์ Balenciaga ได้ขึ้นประโยคก่อนที่นางแบบจะเริ่มเดินว่า ‘เรามองโลกผ่านสิ่งที่ถูกฟิลเตอร์มาจนสมบูรณ์แบบ ตกแต่งจนสวยงาม ถูกทำให้คล้ายคลึงกัน และปรับแต่งผ่านโฟโต้ช็อป’ เพื่อชี้ให้เห็นว่าในโลกปัจจุบันเทคโนโลยีได้เปลี่ยนแปลงการรับรู้ของเราอย่างไรบ้าง ผ่านขั้วตรงข้ามอย่างข้อเท็จจริงและเรื่องแต่ง
โดยเราได้เห็นกันชัดๆ ผ่านสินค้าแฟชั่นที่เป็นของจริงแท้จากแบรนด์ ภายใต้รูปลักษณ์ที่เหมือนของก็อปเกรดบี โดยเฉพาะกระเป๋าและเครื่องประดับ ไม่ว่าจะเป็นไอเท็มเบสิกของ Gucci อย่างกระเป๋าสะพายรุ่น Jackie ลายโมโนแกรม และกระเป๋าโท้ตรุ่น Ophidia ที่ถูกพ่นสีดำคำว่า ‘This Is Not a Gucci Bag’ ไปจนถึงและเข็มขัดรุ่น GG ที่ถูกเปลี่ยนเป็นตัวอักษร BB ของ Balenciaga ทั้งหมด
นอกจากนั้น แฟชั่นโชว์บนรันเวย์สีขาวล้วน ซึ่งเป็นผลงานการกำกับของ Quentin Deronzier มีผู้ชมใส่ชุดสีดำทั้งหมดเหมือนกับ Agent Smith จากเรื่อง The Matrix ที่ดูผ่านๆ อาจจะเหมือนแฟชั่นโชว์ออนไลน์ปกติที่มีนางแบบนายแบบเดินเรียงกันออกมาทีละลุค แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่คือ ทางแบรนด์ได้ใช้เทคโนโลยี Deepfake หรือการปลอมแปลงขั้นเทพระดับ AI ที่คัดลอกตั้งแต่ภาพ เสียง และอัตลักษณ์ตัวตนที่เป็นภัยคุกคามบนโลกอินเทอร์เน็ต คัดลอกใบหน้าของ Eliza Douglas นักวาดภาพที่เป็นนางแบบขาประจำให้กับ Balenciaga มาตั้งแต่ปี 2016 ลงบนนางแบบ ราวกับว่าเหมือนมีเธอเดินอยู่คนเดียวทั้งโชว์
เด็มนา กวาซาเลีย ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ Balenciaga ได้กล่าวถึง อเลสซานโดร มิเคเล ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของฝั่ง Gucci ในสัมภาษณ์บน Vogue Runway ว่า “ผมกับอเลสซานโดร เราแตกต่างกันมากๆ แต่เราสองคนต่างก็ชอบตั้งคำถามต่อเรื่องความเหมาะสมและเรื่องแบรนดิ้ง เพราะว่าทุกคนทำกันหมด ไม่ว่าจะพูดออกมาหรือไม่ก็ตาม”
เป็นอีกครั้งที่ Balenciaga ได้ใช้เทคโนโลยีมาเป็นสื่อนำเสนอคอลเล็กชันของแบรนด์ เช่นเดียวกับคอลเล็กชัน Fall 2021 ที่แบรนด์พาเราข้ามเวลาไปยังปี 2031 หรืออีก 10 ปีข้างหน้า ผ่านการทำวิดีโอเกมชื่อว่า Afterworld: The Age of Tomorrow โปรเจกต์วิดีโอที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่แบรนด์เคยทำมา
ภาพ: Balenciaga
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
