เงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (15 มีนาคม) ที่ระดับ 30.72 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ 30.78 บาทต่อดอลลาร์
จิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน EASY INVEST บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS) ประเมินว่า กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระหว่างวัน 30.60-30.80 บาทต่อดอลลาร์ โดยสัปดาห์นี้ต้องจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และญี่ปุ่น
ในฝั่งของสหรัฐฯ คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) จะไม่เปลี่ยนนโยบายการเงินทั้งหมดวันพุธนี้ แต่มองว่า คณะกรรมการ Fed จะปรับคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจปี 2021 ให้สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งการเติบโตหรือเงินเฟ้อ (ล่าสุดอยู่ในระดับ 4.2% และ 1.8% ตามลำดับ) หลังจากที่มีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของ โจ ไบเดน ส่วนในฝั่งดอกเบี้ยนโยบายตลาดเชื่อว่า การขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกน่าจะเกิดขึ้นเร็วที่สุดภายในปี 2023
ส่วนฝั่งญี่ปุ่น สัปดาหนี้มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (BOJ) ในช่วงวันศุกร์ แม้จะไม่มีโอกาสที่ BOJ จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่าง Deposit Facility Rate ที่ -0.10% แต่เชื่อว่าจะมีการหารือเกี่ยวกับนโยบายซื้อสินทรัพย์เสี่ยง เช่น ETF ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ขณะเดียวกันก็น่าจะมีการให้ความเห็นเรื่องเป้าหมายบอนด์ยีลด์ญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปัจจุบันที่ 0.0% บนกรอบบวกลบ 0.20% หลังจากที่บอนด์ยีลด์ทั่วโลกปรับตัวขึ้นเร็วในช่วงนี้
ด้านตลาดเงินเชื่อว่า เงินดอลลาร์จะยังไม่อ่อนค่าเร็วในสัปดาห์นี้ เพราะนักลงทุนหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะฟื้นตัวได้เร็วกว่าทั่วโลก ส่วนที่ต้องจับตาคือการประชุม FOMC แม้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่อาจตอกย้ำมุมมองของเราว่า นโยบายการคลังส่งผลบวกมากกว่าลบกับค่าเงินดอลลาร์
ส่วนฝั่งยูโร (EUR) มองว่า ต้องรอการแจกจ่ายวัคซีนให้ทั่วถึงถึงจะสามารถฟื้นตัวกลับเป็นขาขึ้นได้ ขณะที่เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบกว้างก่อนการประชุม BOJ และถ้ามีการปรับกรอบเป้าหมายบอนด์ยีลด์ญี่ปุ่นอายุ 10 ปีให้กว้างขึ้น จะทำให้เกิดแรงขายบอนด์และโยกเงินไปลงทุนต่างประเทศหนุนให้เงินเยนอ่อนค่าได้อีก
กรอบดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) สัปดาห์นี้ 91.2-92.2 จุด ระดับปัจจุบัน 91.7 จุด
เงินบาทมีจุดอ่อนหลักคือเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จึงทำให้อ่อนค่ากว่าสกุลเงินในภูมิภาค แม้ระยะสั้นเริ่มมีเงินทุนไหลเข้าจากต่างชาติบ้าง ช่วงนี้จึงต้องจับตาทิศทางของนโยบายการเงินทั่วโลกก่อน คาดว่าถ้านโยบายส่วนใหญ่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาก เงินบาทควรได้รับแรงหนุนจากภาพตลาดทุนที่เปิดรับความเสี่ยง (Risk On) ส่วนในระยะยาว มองว่าจะเห็นเงินทุนไหลเข้าในฝั่งเอเชียและประเทศไทยชัดเจนก็ต่อเมื่อฝั่งสหรัฐฯ แจกจ่ายวัคซีนได้เพียงพอแล้ว
กรอบเงินบาทรายสัปดาห์ 30.40-30.90 บาทต่อดอลลาร์
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
