×

ทัพนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมชาติไทยประสบปัญหากระเป๋าเดินทางและอุปกรณ์ฝึกซ้อมกว่า 200 ชิ้น เดินทางถึงกัมพูชาล่าช้า

01.06.2023
  • LOADING...
นักกีฬาทีมชาติไทย

วานนี้ (31 พฤษภาคม) หลังจากที่นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมชาติไทย 521 ชีวิตเดินทางถึงกัมพูชา เพื่อแข่งขันในรายการอาเซียนพาราเกมส์ ที่จัดขึ้นที่กรุงพนมเปญ ในวันที่ 3-9 มิถุนายน 2566 แต่ปรากฏว่าสัมภาระและของใช้ส่วนตัวของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมชาติไทยกลับไม่มาตามนัดถึง 200 ชิ้น

 

โดย Parapost ได้ถ่ายภาพจุดรับกระเป๋าสัมภาระที่ว่างเปล่า ทั้งที่มีป้ายแสดงว่าเป็นจุดรับสัมภาระของเที่ยวบินจากประเทศไทย พร้อมระบุสาเหตุที่สัมภาระไม่สามารถมาตามที่กำหนดได้ เป็นเพราะสายการบินที่ทีมชาติไทยบินมาเป็นสายการบินโลว์คอสต์ ไม่สามารถบรรทุกกระเป๋ามาเพราะข้อจำกัดในพื้นที่ 

 

“ได้สอบถามไปยังสายการบิน เขาให้เหตุผลว่า ขนาดของรถวีลแชร์กินพื้นที่ไปมาก จึงไม่สามารถบรรทุกกระเป๋ามาได้ ล่าสุดแจ้งมาว่าจะนำกระเป๋าที่ขาดทั้งหมดนำส่งที่หมู่บ้านนักกีฬาในเวลา 04.30 น.

 

“จากกรณีนี้หลายคนต่างแสดงความไม่พอใจกับผู้รับผิดชอบที่เปลี่ยนการเดินทางโดยสายการบินไทยมาใช้สายการบินไฟลท์ที่มีปัญหา ซึ่งเป็นสายการบินโลว์คอสต์” 

 

โดยล่าสุดมีนักกีฬาทีมชาติไทยมาคอมเมนต์ในโพสของ Parapost ตอนเวลาประมาณ 10.00 น. ว่า สัมภาระของทีมมาถึงสนามบินกัมพูชาแล้ว ถึงแม้ว่าจะล่าช้ากว่าเวลาที่นัดไว้มากก็ตาม

 

ทางด้านเพจ SPADT Thailand หรือสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้แชร์โพสต์ดังกล่าว พร้อมตั้งคำถามว่า 

 

“ลองคิดเล่นๆ ดูว่า ถ้าเราเหมาเรือสักลำเพื่อไปเที่ยว แล้วพบว่าสัมภาระกว่าครึ่งไม่ได้นำมาด้วย และคำตอบที่ได้ก็มีแต่คนออกมาแก้ตัว-แก้ต่างแทนเจ้าของเรือ แทนที่จะกลับไปบี้ ไปไฟต์ ให้เจ้าของเรือรับผิดชอบ กลับไปนำสัมภาระมาส่งให้เราในฐานะลูกค้าที่อุตส่าห์เหมาลำ เพื่ออำนวยความสะดวก 

 

“นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ตัวแทนทีมชาติไทยจำนวน 400 กว่าคน แต่กระเป๋าสัมภาระกว่า 200 ใบ ตกหล่น ไม่สามารถนำมาได้ กับคำตอบที่ได้รับมาคือการให้ยอมรับว่าเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ระหว่างการเดินทางระหว่างประเทศอยู่แล้ว ลองต่อจิ๊กซอว์จากอดีตหลายครั้งที่ผ่านมาจนมาถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ดูจะพบว่า เรื่องราวในข่าวนี้มีมูล สามารถปะติดปะต่อเรื่องราวได้ เพราะที่ผ่านมาก็มีปัญหามาโดยตลอดสำหรับการจัดซื้อจัดจ้าง”

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising