ครบรอบหนึ่งสัปดาห์แล้วนับตั้งแต่ที่ เฉิน (คิมจงแด), บยอนแบคฮยอน และ ซิ่วหมิน (คิมมินซอก) สามสมาชิกสัญชาติเกาหลีใต้ของวง EXO และยูนิต EXO-CBX ยื่นขอยุติสัญญาปิด (Exclusive Contract) กับต้นสังกัด SM Entertainment เนื่องจากสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ท่ามกลางความตกใจของแฟนๆ ที่ไม่ทันตั้งตัว เพราะศิลปินเพิ่งส่งสัญญาณว่าใกล้จะคัมแบ็กเพียงไม่กี่วันก่อนหน้านั้น
อย่างที่รู้กันว่า ‘สัญญาทาส’ เคยทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างบริษัทกับอดีตศิลปินต่างชาติในวง EXO และอดีตศิลปินในค่ายมาแล้วหลายครั้ง หากพูดถึงกรณีการฟ้องครั้งนี้อาจจะกล่าวได้ว่าสมาชิกค่อนข้างมีอำนาจต่อรองกับบริษัทอยู่พอสมควร รวมถึงมีการย้ำว่าสุดท้ายแล้วทั้งสองฝ่ายจะพยายามหาทางออกร่วมกันเพื่อให้ทั้ง 3 คนสามารถทำกิจกรรมในฐานะวง EXO ต่อไปตามเดิม
แต่อย่างไรก็ตาม หลายวันที่ผ่านมา ตัวแทนทนายความจากทั้งสองฝั่งได้ออกแถลงการณ์โต้ตอบข้อกล่าวหากันมาเรื่อยๆ ซึ่งลามไปถึงคนนอกอย่างศิลปิน MC Mong และบริษัท Big Planet Made (BPM) ที่ถูกค่ายอ้างว่าเป็นผู้เข้ามาแทรกแซงเรื่องผลประโยชน์ จนพวกเขาต้องออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยพูดคุยเกี่ยวกับสัญญาใดๆ กับศิลปินทั้งสิ้น
ด้านแฟนคลับยิ่งไม่พอใจมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีการโจมตีจากบุคคลอื่นเรื่องทรัพย์สินราคาแพงจำนวนมากของสมาชิก เพราะนั่นคือผลตอบแทนที่ศิลปินควรจะได้รับอยู่แล้วเมื่อคำนึงถึงการทำงานอย่างหนักมาตั้งแต่เดบิวต์และสร้างกำไรให้กับบริษัทอย่างมหาศาล
กระทั่งล่าสุด บ้านแฟนเบสของ EXO ทั่วโลกจำนวน 50 กว่าแอ็กเคานต์จึงออกแถลงการณ์ร่วมกันอย่างเป็นทางการ โดยจุดประสงค์คือเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับศิลปินที่กําลังรักษาสิทธิ์ของตัวเองจากสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ดังนี้
“แถลงการณ์ฉบับนี้เป็นตัวแทนในการแสดงออกถึงความรู้สึกของแฟนเบสต่างชาติของ EXO ไม่เพียงแค่เพื่อวง EXO แต่รวมถึงแฟนๆ ของ เฉิน แบคฮยอน และ ซิ่วหมิน อีกด้วย พวกเรามารวมตัวกันเพื่อแสดงออกถึงเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือเพื่อสนับสนุนและปกป้องสมาชิก EXO โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ EXO-CBX ที่กําลังรักษาสิทธิ์ของตัวเองจากสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งไม่ได้มีผลแค่กับตัวพวกเขา แต่ยังมีผลถึงสัญญาของศิลปินอื่นๆ ใน SM เช่นกัน
“ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ที่ เฉิน แบคฮยอน และ ซิ่วหมิน แจ้งความประสงค์ขอยกเลิกสัญญาพิเศษกับ SM ซึ่งมีความไม่เป็นธรรมเนื่องจากไม่สามารถแสดงสําเนาข้อมูลการชําระเงินให้กับศิลปิน, เงื่อนไขในสัญญาทาสที่เอารัดเอาเปรียบ และการบีบบังคับขู่เข็ญ
“พวกเราขอเรียกร้องให้ SM Entertainment จัดเตรียมข้อมูลการชําระเงินให้แก่ศิลปิน ตามที่ศิลปินซึ่งเป็นผู้มีสิทธิ์โดยชอบด้วยกฎหมายร้องขอ และเราขอให้ SM ยุติการใช้สื่อเป็นเครื่องมือเพื่อสร้างความเข้าใจผิดและส่งผลให้เกิดการโจมตีที่ไม่ยุติธรรมและสร้างความแตกแยกต่อสมาชิกในวง สุดท้ายนี้เราขอเรียกร้องให้ SM Entertainment และพนักงานของบริษัทแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและแสดงจริยธรรมองค์กรอย่างที่บริษัทบันเทิงในเวทีระดับโลกควรจะเป็น
“พวกเราขอให้ EXO-L และแฟนๆ ทุกคนยืนหยัดที่จะสนับสนุน EXO-CBX ด้วยความสามัคคีต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า สนับสนุนให้เขาได้รับความยุติธรรมอย่างที่พวกเขาควรได้รับ ทําให้เสียงและความจริงจากพวกเขาได้ถูกรับฟัง และสําหรับผู้ที่กําลังกังวล ผู้ที่กําลังกลัว และผู้ที่กําลังรวบรวมความกล้าเพื่อสู้กับความอยุติธรรมที่พวกเขาเผชิญ เราขอย้ำอีกครั้งว่าเรื่องนี้ไม่ส่งผลแค่กับสมาชิก EXO แต่การต่อสู้ครั้งนี้จะส่งผลไปถึงสัญญาของศิลปินในค่าย SM Entertainment ทุกคนด้วย”
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้านี้เพิ่งมีภาพสมาชิก EXO ทั้ง 7 คนเดินทางไปถ่ายทำเรียลิตี้โชว์ (ไม่รวม ไค หรือ คิมจงอิน ที่กำลังเข้ากรมทหาร) นับเป็นสัญญาณที่ดีว่ากิจกรรมของวงจะเดินหน้าต่อไปอย่างที่สมาชิกให้สัญญาไว้ และหวังว่าปัญหาทางกฎหมายจะถูกคลี่คลายลงได้ในเร็ววันอย่างโปร่งใสที่สุด
EXO เดบิวต์ในปี 2012 ด้วยสมาชิกทั้งหมด 12 คน แบ่งกลุ่มย่อยเป็น EXO-K และ EXO-M เพื่อโปรโมตในประเทศเกาหลีใต้และจีนในช่วงแรก ก่อนจะกลับมารวมตัวกันโปรโมตในเกาหลีใต้เป็นหลัก แต่ยังปล่อยเพลงเวอร์ชันภาษาจีนมาด้วยตลอด
ตั้งแต่ปี 2014 อดีตสมาชิกสัญชาติจีน (และแคนาดา) ได้แก่ คริส, ลู่หาน และ เทา ตัดสินใจยื่นขอยกเลิกสัญญาที่ไม่เป็นธรรมและยุติกิจกรรมกับวงไปแล้ว ปัจจุบัน EXO จึงมีทั้งหมด 9 คน โดย เลย์ หรือ จางอี้ชิง เป็นสมาชิกชาวจีนเพียงคนเดียว ซึ่งแม้ว่าจะไม่ต่อสัญญาเดิมกับ SM รวมถึงไม่ได้ร่วมทำกิจกรรมต่างๆ แต่เขาก็ยังมีสถานะเป็นสมาชิกวงอยู่เสมอ
บทความที่เกี่ยวข้อง:
ภาพ: SM Entertainment
อ้างอิง: