ในที่สุด คือเธอ ก็ได้เดินทางมาถึงบทสรุปของเรื่องราวความรักระหว่าง ก้าวกล้า (มาริโอ้ เมาเร่อ) และ สายขิม (ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์) เป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งได้กระแสตอบรับจากผู้ชมอย่างเนืองแน่น ด้วยเรตติ้งตอนจบที่สูงถึง 4.1 และเรตติ้งทุกตอนเฉลี่ย 3.05 ซึ่งเป็นอันดับ 1 ของช่อง 3 ในปีนี้ อีกทั้งทำสถิติการรับชมออนไลน์สูงสุดของละครในประเทศไทยบน TrueID และ 3Plus และยังแรงจนติดอันดับ 2 หมวด TV Shows ในวันที่ 15 กันยายน ในแพลตฟอร์มสตรีมมิงอย่าง Netflix Thailand
คือเธอ เสิร์ฟรสชาติถึงพริกถึงขิงลาจอไปกับการขมวดปมใหญ่ของเรื่องราว กับการแสดงและเคมีของมาริโอ้และญาญ่าที่รับบทพระ-นาง โดยเล่าถึงเรื่องราวความรักที่ถูกกีดกันด้วยความต่างทางชนชั้นและความเข้าใจผิดมากมาย แต่ก้าวกล้าและสายขิมก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคแห่งชีวิต วนกลับมาเจอกันเพื่อตอกย้ำว่า คนที่ใช่อย่างไรก็ต้องวนมาเจอกัน และคนที่ใช่นั้น ‘คือเธอ’
กระแสตอบรับในโลกโซเชียลร้อนแรงอย่างมาก ความเห็นในเรื่องการแสดงที่ยอดเยี่ยมถึงลูกถึงคน และเคมีของพระ-นางที่ทุกคนรอคอยก็ออกมาได้น่ารัก โรแมนติก เป็นธรรมชาติอย่างไร้ที่ติ และได้รับการชื่นชมอย่างล้นหลาม
แต่ในขณะเดียวกัน คือเธอ ก็ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของบทละคร ที่ยังคงผลิตซ้ำความรุนแรงในครอบครัวที่กดทับเพศหญิง อย่างที่สายขิมต้องเผชิญในเรื่องจากทั้งพ่อและสามี ละครนั้นสามารถนำเสนอความรุนแรงได้ แต่บทสรุปของเรื่องราว ผู้ชมก็ยังคงไม่เห็นผลของการกระทำของ ทรงศีล (แซม ยุรนันท์) พ่อของสายขิมอยู่ดี สะท้อนว่าแม้แต่ในละครจากสื่อกระแสหลักก็ยังมองพฤติกรรมความรุนแรงในครอบครัวนี้ว่าเป็นสิ่งปกติ
แม้ว่าโปรดักชัน เคมี ฉากเข้าคู่พระ-นาง คือเธอ จะทำได้ดีมาก และทำให้ผู้ชมอินได้เทียบเท่าซีนโรแมนติกในซีรีส์เกาหลีใต้ แต่บทเชิงสังคมยังห่างชั้น และผลิตซ้ำการจำยอมของเหยื่อความรุนแรงโดยขาดความตระหนักถึงอิทธิพลของสื่อ
แต่ คือเธอ ก็ถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาของละคร และเราจะเฝ้าดูการพัฒนาเติบโตของอุตสาหกรรมบันเทิงไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของบทละครที่จะสามารถก้าวไปในระดับนานาชาติ และทำหน้าที่เป็น Soft Power ของชาติอย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้อย่างสมภาคภูมิ
อ้างอิง:
- Nielsen