Back in time 94s ร้านเครื่องเสียงและเฟอร์นิเจอร์วินเทจที่หลงใหลและให้ความเคารพในไอเดียของนักออกแบบ

“สภาพทุกอย่างต้องเพอร์เฟกต์ในความออริจินัล”

แค่ประโยคเดียวของ ฉัตร-หฤษฎ์ ไชยวานิช นักร้องอาชีพ ครูสอนร้องเพลง และหนึ่งในพาร์ตเนอร์ของ ‘Back in time 94s’ ทำให้เข้าใจได้เลยว่า ทำไมสภาพเครื่องเสียงของทางร้านถึงได้อยู่ในสภาพที่ไม่ต่างจากเพิ่งถอยจากช้อป ทั้งๆ ที่มีอายุหลายสิบปี

นี่คงเป็นวิธีการคัดเลือกที่พวกเขาตั้งใจ

‘Back in time 94s’ เป็นร้านขายเครื่องเสียงและเฟอร์นิเจอร์วินเทจแบรนด์ยุโรปที่หลงใหลในดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ของการดีไซน์ แล้วเปิดขายเป็นร้านอยู่บนโซเชียลมีเดียมาได้พักใหญ่ แต่ข่าวดีคือเมื่อไม่นานมานี้ทางแบรนด์ได้มีหน้าร้านอย่างเป็นทางการในซอยเอกมัย 4 ซึ่งหากเข้าไปในตัวร้านต้องบอกว่านี่คือสวรรค์ของคนที่รักทั้งดีไซน์และเสียงเพลงเลยก็ว่าได้ เพราะเครื่องเสียง เทิร์นเทเบิล และลำโพงดีไซน์สวยอย่าง B&O, Braun, Telefunken, Dual, Saba และอีกมากมาย ถูกวางคู่กันกับเฟอร์นิเจอร์วินเทจได้อย่างพอดี

ใครที่เคยเลื่อนผ่านตากันมาบ้างทางโซเชียลมีเดียน่าจะทราบดีว่า เพียงแค่ดูรูป อ่านตำนานรายละเอียดโปรดักต์แต่ละชิ้นที่มีที่มาที่ไปอย่างชัดเจนก็เพลินแล้ว แต่ที่นี่เราสามารถเข้าไปทดลองฟังเสียง สัมผัสโปรดักต์จริงได้ด้วยตัวเอง โดยมี ฉัตร เป็นคนอธิบายรายละเอียดของแต่ละเครื่องไปด้วยพร้อมกางหนังสือยืนยัน

“แต่ก่อนพวกนี้ขายกันราคา 3,000-5,000 บาท ไปตั้งเป็นตู้ เฮ้ย…มันมีดีกว่านั้นสิ อายุเกือบจะร้อยปีแล้ว ดูงานที่ดีไซเนอร์ออกแบบมาสิ ประณีตมาก ซี่ไม้ หรือฟังก์ชันต่างๆ เราก็เลยอยากให้ทุกอย่างคงเดิมที่สุด สมบูรณ์ที่สุด ปุ่มครบ อุปกรณ์ครบ ระบบต้องดี มีคู่มือมีกล่องยิ่งดี พอได้มา… เราฟังก่อนเลยว่าพังไหม หลอดแตกไหม เสียงพร่าไหม เราอยากให้ลูกค้าได้ฟังเหมือนกับที่ดีไซเนอร์และวิศวกรเขาคิดมา ทุกตัวที่ร้านก็เลยจะต้องผ่านการเซอร์วิส ติดตั้งบลูทูธให้ก่อนเพื่อให้คนซื้อไปใช้งานได้จริง”

ฉัตรพูดก่อนที่พาร์ตเนอร์อีกคนอย่าง เฮง-วธันน์ อาเถียน แฟชั่นดีไซเนอร์ และเป็นคนถ่ายรูปทุกรูปที่ปล่อยออกไป จะเสริมว่า “พวกเราคัดเองทุกชิ้น เรามีพี่ชายอยู่ที่เยอรมนีและเดนมาร์ก เราจะให้เขาส่งคลิปมาก่อนว่ามีตัวไหนบ้าง แล้วเราจะเจาะเข้าไปในประวัติของแต่ละตัวที่เราชอบว่าเป็นที่นิยมไหม ผลิตกี่ตัว พอเราได้มาแล้วสภาพภายนอกเราไม่ทำอะไรกับมันนอกจากเช็ด แค่นั้นเลย ไม่ได้พ่นสีใหม่ ส่วนภายในก็ส่งให้ช่างทำความสะอาดวงจร ดูแลให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์มากที่สุด”

“อยากให้ใช้ไปเลย ความสึกหรอมันมี แต่อย่าไปตั้งโชว์ เราหาอะไหล่เปลี่ยนได้ มีปัญหาเราซ่อมให้ได้” ฉัตรย้ำอีกรอบก่อนจะพาพวกเราทัวร์ร้าน ทดลองฟังเสียงแต่ละเครื่องที่เขาเลือกมาที่ละชิ้น บอกเล่าเรื่องราวของโปรดักต์แต่ละชิ้นอย่างเข้มข้นที่สร้างคุณค่าให้กับของวินเทจเหล่านี้

นอกเหนือไปจากเครื่องเสียงวินเทจแล้ว เฟอร์นิเจอร์ก็เป็นอีกหนึ่งโปรดักต์ของ Back in time 94s ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงานวินเทจของเหล่าดีไซเนอร์แถบสแกนดิเนเวียอย่าง Poul Hundevad, Johannes Andersen หรือ Børge Mogensen ที่วางตกแต่งคู่กันกับเครื่องเสียงของร้านได้อย่างลงตัว

Back in time 94s เปิดหน้าร้านอยู่ในครีเอทีฟสเปซชื่อว่า B&S Studio ที่มีทั้งแบรนด์เสื้อผ้า พลอย และเซรามิก รวมอยู่ในพื้นที่เดียวกัน แต่ด้วยสถานการณ์โควิด ปัจจุบันทางร้านจึงเปิดรับเฉพาะลูกค้าที่จองล่วงหน้าเท่านั้น ใครสนใจอยากลองฟังเครื่องเล่นแผ่นเสียงหรือเครื่องเสียงวินเทจ ในช่วงนี้แนะนำให้ทักไปนัดวัน-เวลาในช่องทางออนไลน์ต่างๆ ของร้านได้เลย

ไหนๆ วันนี้เราก็มาถึง ‘Back in time 94s’ แล้ว เลยอดไม่ได้ที่จะขอให้ทั้งสองแนะนำไอเท็มคลาสสิกที่น่าทำความรู้จัก 4 ชิ้น หากใครกำลังอยากได้ลำโพงดีไซน์สวยไว้สะสม แล้วยังไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ลองเริ่มทำความรู้จักจาก 4 รุ่นนี้ก่อนได้เลย

Braun SK5 (1958)

“เป็นตัวที่ดีไซน์ไร้กาลเวลา ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายขึ้นคือผลิตภัณฑ์ Apple ทั้งหมดได้อิทธิพลมาจาก Deiter Rams ที่ดีไซน์เจ้าตัวนี้หมดเลย เหล็กฉลุ ความมินิมัล คนแต่งบ้านอยากมีเจ้านี่ไว้ในชั้นถ่ายอินสตาแกรม”

B&O Century (1993)

“คนก็นึกว่าออกมายุคหลังปี 2000s ตัวนี้เป็นรุ่นแรกของ B&O ที่ทำเป็นคอมแพ็ก ซึ่งปกติจะทำเป็นตัวใหญ่ ลำโพงแอ็กทีฟ แยกชิ้นหมด แต่ตัวนี้คือง่ายสุดๆ เสียบปลั๊กเดียวก็ใช้ได้เลย ฟังก์ชันมีการอัดจากซีดีลงเทปได้ กลับหน้ากลับหัวได้เลย ไม่ต้องถอดออกมา มีเซ็นเซอร์ยุคนั้นโบราณสุดๆ ตัวนี้พีกมาก ไม่มีใครเชื่อว่าผลิตปี 1993 เสียงดีสมตัว แขวนกับผนังบ้านได้”

Braun 400 (1973)

“400s จะออกต่างกัน 2 ปี คือออกมาปี 1975 เป็นคอมแพ็กรุ่นสุดท้ายที่หน้าตาแบบนี้ของ Dieter Rams พออีกยุคผลิตแยกเป็น เครื่องอันหนึ่ง เทปอันหนึ่งแล้ว เป็นออลอินวันตัวท้ายๆ มีแค่ 30,000 เครื่องทั่วโลก ตัวนี้ครบเลย เป็นออโตเมติกแล้ว เล่นง่าย วิทยุแผ่นเสียง ไลน์อิน”

Wega Studio 3212 (1970s)

“เราเอามาจับคู่กับ Dual 1216 เป็นเทิร์นฯ ออโตเมติก ซึ่ง Wega รุ่นหน้าขาวหายากมาก ผลิตปี 1972-1974 สไตล์ HiFi All in One ต่อลำโพงได้ 1 คู่ มีช่อง Aux In หนึ่งช่องสำหรับต่อบลูทูธ เทป ซีดี ทางร้านได้สั่งสาย Aux 3.5 กับ ตัวรับ Bluetooth ไว้สำหรับเปิดเปิดจากสตรีมมิงได้เลย”