AXTRART หรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า แอ็กซ์ตร้า ฟิวเจอร์ ซิตี้ ถือกำเนิดขึ้นจากการแปลงสภาพของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าโลตัสส์ รีเทล โกรท (LPF) ที่มีมูลค่าสินทรัพย์รวมกว่า 32,000 ล้านบาท และมีมูลค่าตลาดสูงติดอันดับ 1 ใน 4 ของดัชนี PF&REIT ในประเทศไทย
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยที่พลิกโฉมการลงทุนในรูปแบบเดิมๆ สู่โอกาสใหม่ๆ ที่ไร้ขีดจำกัด ภายใต้การบริหารงานของทีมผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท แอ็กซ์ตร้า ฟิวเจอร์ ซิตี้ พร็อพเพอร์ตี้ รีท จำกัด (AXTRARM)
ครอบคลุมทั่วไทย! เจาะลึกพอร์ตสินทรัพย์คุณภาพของ AXTRART
หัวใจสำคัญของ AXTRART คือการลงทุนในศูนย์การค้าโลตัส 23 แห่งทั่วประเทศ บนพื้นที่ให้เช่ารวมมากกว่า 340,000 ตารางเมตร โดยกระจายตัวอยู่ในทำเลศักยภาพทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ครอบคลุมทั้งแหล่งท่องเที่ยวและใจกลางเมือง เช่น สาขาพระราม 1, ศรีนครินทร์, ภูเก็ต, สมุย และกระบี่
ศูนย์การค้าเหล่านี้ล้วนตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูง ใกล้แหล่งชุมชน มีการคมนาคมสะดวก และมีโอกาสเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยดึงดูดลูกค้า และสร้างความมั่นคงให้กับรายได้ของกองทรัสต์
ตัวอย่างที่โดดเด่นคือโครงการศรีนครินทร์ ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์หลักที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ด้วยพื้นที่เช่ากว่า 31,600 ตารางเมตร และมีผู้เช่าถึง 255 ราย พร้อมอัตราการเช่าที่สูงถึง 96.44% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567) สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของทำเลและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ
จุดแข็งสำคัญอีกประการของ AXTRART คือการถือครองกรรมสิทธิ์ (Freehold) กว่า 80% ของพอร์ตการลงทุน ประกอบกับการมีผู้เช่าหลักที่แข็งแกร่งอย่างโลตัส และการกระจายตัวของผู้เช่ารายย่อยที่หลากหลาย ทั้งร้านอาหาร ร้านค้าแฟชั่น ร้านค้าสินค้าไอที และธนาคาร ส่งผลให้กองทรัสต์มีกระแสเงินสดที่มั่นคงและสม่ำเสมอ
ผลงานโดดเด่น! AXTRARM กับความสำเร็จที่พิสูจน์ได้
AXTRARM ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ ได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากสองผู้ถือหุ้นหลัก ได้แก่ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ผู้นำในธุรกิจค้าส่งค้าปลีก และบริษัท ซีพี ฟิวเจอร์ ซิตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (CPFC) ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การผนึกกำลังนี้ส่งผลให้กองทรัสต์ได้รับประโยชน์จากความเชี่ยวชาญทั้งด้านค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์
“ด้วยความเชี่ยวชาญของทีมบริหาร AXTRARM จึงมีความสามารถในการวิเคราะห์ศักยภาพของสินทรัพย์ และปรับกลยุทธ์ให้ทันต่อสถานการณ์ตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ” สานต่อ มุทธสกุล กรรมการผู้จัดการ AXTRARM กล่าว
“การที่ AXTRART มีทรัพย์สินกระจายตัวอยู่ในทำเลศักยภาพทั่วประเทศ ทั้งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างภูเก็ต, สมุย, กระบี่ และพื้นที่เศรษฐกิจอย่างอมตะนคร, ศรีนครินทร์, รังสิต ทำให้กองทรัสต์มีโอกาสได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค”
ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาสะท้อนความสำเร็จของการบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี โดยในปี 2566/67 AXTRART มีรายได้ค่าเช่าและบริการสูงถึง 2,815.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ 2,687.10 ล้านบาท
และมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 2,268.55 ล้านบาท พร้อมทั้งสามารถจ่ายปันผลให้ผู้ถือหน่วยในอัตรา 0.8749 บาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้นจาก 0.8282 บาทต่อหน่วยในปีก่อนหน้า
ผนึกกำลัง Synergy เครือซีพี: ก้าวต่อไปของ AXTRART ที่ไร้ขีดจำกัด
การที่ AXTRART อยู่ภายใต้การบริหารของ CPAXT ในเครือซีพี ยังส่งผลดีต่อกองทรัสต์ในหลายด้าน โดยเฉพาะการได้รับความเชื่อมั่นจากการเป็นส่วนหนึ่งของเครือซีพีซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจชั้นนำของประเทศ
นอกจากนี้ยังได้รับประโยชน์จากเครือข่ายธุรกิจที่กว้างขวาง และการสนับสนุนจากทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีความเข้าใจลึกซึ้งในธุรกิจค้าปลีก รวมถึงโอกาสในการลงทุนในทรัพย์สินใหม่ๆ ของเครือซีพี และการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจในการดึงดูดผู้เช่าคุณภาพ
ยศวีร์ สุทธิกุลพานิช Head of Primary Markets Distribution Division ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน มองว่า “การแปลงสภาพเป็น REIT จะเปิดโอกาสให้ AXTRART สามารถเติบโตได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น ทั้งการลงทุนในต่างประเทศ การพัฒนาโครงการใหม่ และการกู้ยืมเงินในสัดส่วนที่สูงขึ้นถึง 35-60% ของมูลค่าสินทรัพย์รวม เพื่อนำมาต่อยอดการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้ได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น”
ในด้านการบริหารจัดการ ทีมผู้บริหารมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของพอร์ตการลงทุนผ่านการจัดการเชิงรุก โดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์เพื่อกำหนดแนวทางที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ทั้งการรักษาและดึงดูดผู้เช่ารายใหญ่ที่แข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับการกระจายกลุ่มผู้เช่ารายย่อยให้หลากหลายเพื่อลดความเสี่ยง พร้อมทั้งปรับค่าเช่าให้สอดคล้องกับศักยภาพของแต่ละทำเล
“ในการคัดเลือกทรัพย์สินที่จะเข้าลงทุนเพิ่มเติม จะพิจารณาถึงศักยภาพในการแข่งขันของตัวทรัพย์สิน เช่น ทำเลที่ตั้ง ผลการดำเนินงาน แนวโน้มการเติบโตในอนาคต รวมถึงมูลค่าเข้าลงทุนที่เหมาะสม และอีกหนึ่งปัจจัยหลักคือ ผลประโยชน์ตอบแทนต่อกองทรัสต์และต่อผู้ถือหน่วยลงทุน” สานต่อระบุ
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่เช่าและเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น พื้นที่พักผ่อนหรือร้านค้าเฉพาะทาง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า รวมถึงการปรับปรุงและบำรุงรักษาทรัพย์สินอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มศักยภาพและมูลค่าในระยะยาว
AXTRART: ลงทุนวันนี้ รับอนาคตที่มั่นคง ในยุคดอกเบี้ยขาลง
ตลาด REIT ในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากหลายปัจจัยสนับสนุน ทั้งการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและบริการที่ส่งผลให้การบริโภคภายในประเทศกลับมาคึกคัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาระบบคมนาคมและการขยายเมืองที่ทำให้ทำเลใหม่ๆ กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่น่าสนใจยิ่งขึ้น
ที่สำคัญสภาวะอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มปรับตัวลดลงจากระดับสูงในช่วงที่ผ่านมา จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ตลาด REIT ที่มีผลตอบแทนมั่นคงกลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนอีกครั้ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ AXTRART ที่มีโอกาสการเติบโตจากการพัฒนาทรัพย์สินและการขยายการลงทุนในอนาคต ภายใต้การบริหารจัดการของทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ และการสนับสนุนจากกลุ่มธุรกิจชั้นนำของประเทศ
ด้วยจุดแข็งที่ครบเครื่องทั้งทำเลยุทธศาสตร์ที่กระจายตัวทั่วประเทศ การถือครองกรรมสิทธิ์ในสัดส่วนที่สูง และการบริหารจัดการโดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ AXTRART จึงไม่ใช่แค่การแปลงสภาพจาก LPF สู่การเป็น REIT เท่านั้น แต่เป็นการเปิดบทใหม่ของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ที่พร้อมเติบโตไปพร้อมกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
ในขณะที่ภาวะดอกเบี้ยขาลงกำลังจะกลับมาสร้างความน่าสนใจให้กับการลงทุนใน REIT อีกครั้ง AXTRART จึงเป็นโอกาสที่น่าจับตาสำหรับนักลงทุนที่มองหาทั้งผลตอบแทนที่มั่นคงและศักยภาพการเติบโตในระยะยาว
ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ https://www.lpf-fund.com/