×

AWC มองนักท่องเที่ยว STV เป็นผลดีต่ออุตสาหกรรม เตรียมศึกษาแนวทางเพิ่มโรงแรม ASQ ในภูเก็ตและสมุย

22.10.2020
  • LOADING...
AWC มองนักท่องเที่ยว STV เป็นผลดีต่ออุตสาหกรรม เตรียมศึกษาแนวทางเพิ่มโรงแรม ASQ ในภูเก็ตและสมุย

หลังจากที่รัฐบาลเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist Visa (STV) เข้ามาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศไทย โดยจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ประสงค์เดินทางมาพำนักระยะยาว (Long Stay) และต้องยอมรับการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ประกาศใช้ภายในประเทศไทย 

 

โดยในวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ STV กลุ่มแรกเดินทางเข้าประเทศไทย เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวน 39 คน และจากการเปิดเผยของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่านักท่องเที่ยวกลุ่มที่ 2 จะเข้ามาในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวจากนครกวางโจวประมาณ 100 ราย

 

จากทิศทางดังกล่าว วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวกับ THE STANDARD ว่าการเปิดรับนักท่องเที่ยว STV เป็นมาตรการที่ช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรมของไทย ทั้งเป็นการโชว์ศักยภาพ ความพร้อมในการรับมือของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการต่างๆ เช่น โรงแรมที่พัก (ASQ) โรงพยาบาลที่พัก (AHQ) ล้วนมีส่วนสำคัญในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับอุตสาหกรรมโรงแรมของไทย 

 

อีกทั้งมาตรการควบคุมของภาครัฐที่เข้มแข็ง ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในประเทศไทยต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบการกักตัว 14 วันอย่างเคร่งครัด และแขกผู้กักตัวทุกคนต้องมีผลตรวจ Swap Test ที่มีอายุไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย และต้องทำ Swap Test อีกครั้งก่อนเช็กอินที่โรงแรม ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เพิ่มระดับความเชื่อมั่นได้ถึงความปลอดภัยแก่ทั้งคนไทยและต่างชาติ อีกทั้งยังส่งผลกระทบเชิงบวกแก่อุตสาหกรรม 

 

“การเข้ามาของนักท่องเที่ยว แน่นอนว่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากกลุ่ม STV เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ส่งผลให้เกิดกิจกรรมหมุนเวียนในธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งไม่เฉพาะส่วนโรงแรมเท่านั้นที่จะได้รับประโยชน์ แต่ครอบคลุมถึงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้องในวงกว้าง และถ้าช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาตามเป้าหมายจะทำให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น และเป็นการต่อยอดไปสู่การเริ่มต้นที่ดีของปีหน้า”

 

ก่อนหน้านี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประมาณการรายได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ STV โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 1,200 คนต่อเดือน รายได้อยู่ที่ 1,030,732,800 บาท และคาดว่า 1 ปีจะมีนักท่องเที่ยว 14,400 คน โดยประมาณการรายได้ไว้ที่ 12,368,793,600 บาท

 

วัลลภาประเมินว่าการเข้ามาของนักท่องเที่ยวในช่วงแรกจะเป็นกลุ่มนักธุรกิจ นักลงทุนที่มีธุรกิจในประเทศไทย หรือนักท่องเที่ยวที่พำนักอยู่ระยะยาว หรือจากประเทศใกล้เคียง เช่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจากนโยบายภาครัฐในเรื่องของผู้เดินทางต้องกักตัว 14 วัน จะส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรม

 

ปัจจุบัน AWC มีโรงแรมที่พร้อมรองรับ ASQ อยู่ทั้งหมด 2 โรงแรมในกรุงเทพฯ คือ โรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพฯ และโรงแรมดับเบิ้ลทรี ฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Safety and Health Administration (SHA) นอกจากนี้ทาง AWC ยังศึกษาแนวทางที่จะเพิ่มโรงแรมที่จะรองรับ ASQ ตามจังหวัดใหญ่ๆ เช่น ภูเก็ต และเกาะสมุย ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในช่วงตรวจสอบกับหน่วยงานภาครัฐ 

 

สำหรับในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งปกติแล้วเป็นช่วงไฮซีชันของการท่องเที่ยว วัลลภาประเมินว่ายังคงเป็นตลาดกลุ่มนักเที่ยวคนไทยที่เที่ยวในจังหวัดที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ โดยขับรถเที่ยวกันเอง หรือหัวเมืองหลักซึ่งโดยสารทางเครื่องบิน และโดยการที่รัฐบาลขยายเวลาของมาตรการภาครัฐ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ ไปจนถึงเดือนมกราคมปีหน้าก็ยิ่งเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ดีอีกทาง 

 

อีกทั้งการอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ในจังหวัดตัวเองได้เป็นการช่วยโรงแรมในกรุงเทพฯ อีกทาง เนื่องจากปัจจุบันโรงแรมในกรุงเทพฯ ยังประสบปัญหาจำนวนผู้เข้าพักที่ยังน้อย โดยส่วนใหญ่โรงแรมในกรุงเทพฯ จะเน้นตลาดประชุมสัมมนาและการท่องเที่ยวจากต่างชาติเป็นหลัก 

 

ส่วนในปีหน้านั้น ภาพรวมของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยขึ้นอยู่กับความมั่นใจของนักท่องเที่ยว มาตรการต่างๆ ของทางภาครัฐ และความพร้อมที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว รวมถึงวัคซีนและยาที่จะสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก 

 

โดยคาดว่าในไตรมาสที่ 1-2 ปีหน้า สถานการณ์จะเริ่มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งมาจากการท่องเที่ยวในประเทศในช่วงวันหยุดพักผ่อนยาวๆ นอกจากนี้ทางภาคเอกชนต้องการความช่วยเหลือและสนับสนุนจากทางภาครัฐ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเปิดประเทศ ส่วนทางภาคเอกชนก็คงต้องช่วยกันสนับสนุนโครงการต่างๆ ของภาครัฐด้วยเช่นกัน 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising