วันนี้ (7 กรกฎาคม) นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่าน Facebook ระบุถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดในประเทศไทยที่อาจรุนแรงยิ่งกว่าตัวเลขที่รัฐบาลเปิดเผยออกมา โดยจากการชันสูตรศพผู้เสียชีวิตเพียงวันเดียวพบถึง 4 ราย ซึ่งส่วนใหญ่พบอยู่ในชุมชนแออัด
“วันนี้จะมาเล่าให้ฟังในฐานะแพทย์นิติเวชเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดในกรุงเทพฯ นั้นหนักมากขนาดไหน ผมไป Swab ตรวจโควิดจากศพแล้วเจอ Positive เยอะมากครับ อย่างเมื่อวานตรวจศพ 4 ราย รายหนึ่งอายุมากรู้แน่นอนว่าเป็นโควิดแต่ไม่มีเตียงแอดมิต แล้วก็ตายในที่เกิดเหตุครับ อีก 3 ราย Swab แล้ว Positive ทั้งหมดเลยครับ นี่แค่วันเดียวนะครับ และแค่เขตที่โรงพยาบาลรามาธิบดีรับเท่านั้น” นพ.สมิทธิ์
โดยรวมๆ การอยู่เวรตั้งแต่วันพฤหัสที่ผ่านมา (1 กรกฎาคม) ผู้ตายส่วนใหญ่ที่ตายแล้ว Swab เจอจะอยู่ในชุมชนแออัดที่แออัดมากๆ (พื้นที่นิดเดียว นอนกัน 3 คนก็มี) หรือแฟลตการเคหะ โดยสถานที่ทั้งหมดจะมีประวัติว่าคนในนั้นเป็นแล้วหลายคนแต่ก็ไม่ได้เตียงแอดมิต หรือบางคนคนในครอบครัวเป็น แต่ยังหาที่ Swab ไม่ได้ก็มี นอกจากนี้ยังมีผู้ตายรายหนึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง แล้วญาติพามาติด โดยญาติก็ไม่รู้ตัวว่าเป็นก็มีครับ
“ถ้าไม่ Swab ตรวจแล้วเจอในศพก็ไม่รู้เลยครับ เพราะก็ติดเตียงและอายุมากแล้ว ซึ่งปกติถ้าไม่มีโควิดก็จะไม่ทำอะไร แล้วมอบให้ญาติดำเนินการไป มีอีกรายเป็นชุมชนแออัดของคนใบ้ ซึ่งก็สื่อสารกันยากมาก คิดว่าคนในชุมชนไม่รู้จะมีคนติดอีกมากเท่าไร เพราะยังไม่มีใครมาดูแลเลยครับ”
สรุปคือจะบอกว่าสถานการณ์หนักมาก ผู้ป่วยกับตายที่เห็นนี่ไม่เป็นตัวเลขจริงแน่นอน มีเยอะกว่านั้นมาก มีคนที่ไม่ได้ Swab ตรวจอีกเยอะ (ตอนนี้ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ถ้าจะมา Swab เห็นคิวมานั่งรอตั้งแต่ 4-5 ทุ่มเพื่อตรวจตอนเช้า) ส่วนคนตายก็มีเยอะกว่านี้ เพราะก็มีหลายๆ เคสที่ไม่ได้ Swab แพทย์นิติเวชบางที่ก็ไม่สามารถ Swab ตรวจให้ได้หมดครับ ถึงแม้ว่ามีประวัติเสี่ยง เพราะไม่สามารถเบิกเงินค่า Swab จากศพที่ตายในที่เกิดเหตุ