ATTACK วิญญาณเลขที่ 13 โหด เฮี้ยน ลุ้นระทึกจนนั่งไม่ติดเก้าอี้

หลังจากที่ 13 Studio สตูดิโอภาพยนตร์น้องใหม่แต่มากประสบการณ์ ได้เปิดตัวโปรเจกต์ใหม่ถึง 7 เรื่องให้คอภาพยนตร์ไทยตั้งตารอเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่โปรเจกต์แรกของสตูดิโออย่าง ATTACK วิญญาณเลขที่ 13 จะเปิดตัวสร้างความสยองแก่ผู้ชม โดยได้ คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของภาพยนตร์ระดับปรากฏการณ์อย่าง ธี่หยด ทั้งสองภาคที่นั่งแท่นผู้กำกับ พร้อมด้วยทีมนักแสดงหนุ่มสาวมากฝีมือมาร่วมประชันบทบาท นำโดย อ๊ะอาย-กรณิศ เล้าสุบินประเสริฐ หรือ อ๊ะอาย 4EVE, ลิลลี่-ลฎาภา ทองคำ หรือ ลิลลี่ เดอะ เฟซ, เพิร์ธ-วีริณฐ์ศรา ตั้งกิจสุวานิช, สตางค์-ตริษา ปรีชาตั้งกิจ, ยูแอล-รมิตา รัตนภักดี และ แบงค์-ณฐวัฒน์ ธนทวีประเสริฐ

ATTACK วิญญาณเลขที่ 13 เล่าเรื่องราวของ จิน (อ๊ะอาย-กรณิศ เล้าสุบินประเสริฐ) สาว ม.ปลาย ที่เพิ่งย้ายโรงเรียนมาใหม่และได้เข้าร่วมทีมวอลเลย์บอลของโรงเรียน จนมาพบกับ บุษบา (ลิลลี่-ลฎาภา ทองคำ) ดาวโรงเรียนที่ทั้งสวย เรียนดี กีฬาเด่น แต่อีกด้านเธอก็พกพามาด้วยนิสัยร้ายๆ ชอบกลั่นแกล้งและบูลลี่คนอื่น จินจึงพยายามเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนๆ แถมจินยังถูก กรรณ (แบงค์-ณฐวัฒน์ ธนทวีประเสริฐ) แฟนของบุษบาพยายามตามจีบ เธอจึงกลายเป็นเป้าหมายของบุษบาในทันที

กระทั่งวันหนึ่ง บุษบากลับถูกแขวนคอเสียชีวิตกลางโรงยิม แถมเพื่อนๆ ของจินที่เคยถูกบุษบา ก็ถูกผีบุษบาตามหลอกหลอนไม่หยุดหย่อน พวกเธอจึงต้องตามหาคนที่ปลุกผีบุษบาให้เจอภายใน 3 วัน ไม่เช่นนั้นพวกเธอจะต้องตายด้วยน้ำมือของผีบุษบา

นอกจากชื่อของผู้กำกับ คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา ที่น่าจะทำให้ผู้ชมมั่นใจได้ว่า ATTACK วิญญาณเลขที่ 13 จะอัดแน่นไปด้วยความหลอน แต่ภาพยนตร์ยังมีพล็อตเรื่องที่น่าสนใจและชวนให้ตั้งคำถามและคาดเดาเนื้อเรื่องตั้งแต่ภาพยนตร์ยังไม่ฉายว่าเบื้องหลังการเสียชีวิตของบุษบามีที่มาที่ไปอย่างไร รวมถึงตัวผู้กำกับที่เพิ่งประสบความสำเร็จมาจาก ธี่หยด 1-2 จะแอบซ่อนไม้เด็ดอะไรมาเซอร์ไพรส์กับผู้ชมบ้าง

ซึ่งหลังจากเข้าไปดูตัวภาพยนตร์เต็ม ผู้กำกับและทีมสร้างก็ขยับขยายประเด็นที่เราตั้งคำถามไว้ให้น่าสนใจและชวนติดตามกว่าเดิม โดยเฉพาะฉากการทำพิธีกรรมในช่วงต้นเรื่องที่ทิ้งปริศนาให้ผู้ชมและสร้างความสยองชวนขนลุกในเวลาเดียวกัน หรือจะเป็นเรื่องราวของตัวละครภายในเรื่องที่ต่างก็มีแรงจูงใจในการอยากล้างแค้นบุษบากันทุกคน ทั้ง จิน เด็กใหม่ที่พร้อมเผชิญหน้ากับบุษบาอย่างไม่เกรงกลัว, หงส์ (เพิร์ธ-วีริณฐ์ศรา ตั้งกิจสุวานิช) ที่ยอมทำตามคำสั่งของบุษบาเพราะกลัวถูกบูลลี่เหมือนคนอื่นๆ, หยา (ยูแอล-รมิตา รัตนภักดี) ผู้เป็นคนที่ถูกบุษบากลั่นแกล้งหนักที่สุด, อร (สตางค์–ตริษา ปรีชาตั้งกิจ) เพื่อนสนิทของหยา แต่เธอก็ไม่กล้าเข้าไปช่วยเพื่อนของตัวเอง หรือจะเป็น กรรณ แฟนหนุ่มที่ดูจะไม่ได้สนใจบุษบาจริงๆ

ขณะเดียวกันผู้กำกับและทีมสร้างยังพยายามปูเรื่องราวของบุษบาที่ชักชวนให้เราคาดเดาต่อไปอีกว่า หรือจริงๆ แล้วตัวเธอนั่นแหละคือคนที่ถูกเบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด

การสร้างปมปริศนาต่างๆ ที่ชวนให้ผู้ชมอยากหาคำตอบภายใต้บรรยากาศสยองจึงเป็นจุดเด่นสำคัญที่ผู้กำกับและทีมสร้างนำเสนอออกมาได้แข็งแรง เพราะแม้ตัวภาพยนตร์จะเต็มไปด้วยฉากสยองขวัญ แต่มันก็ยังมีปมปริศนาที่พาเราเกาะตามหลังตัวละครไปตลอดทั้งเรื่อง

ฉากสยองขวัญก็ถูกสร้างสรรค์มาได้อย่างมีเชิง จังหวะการตัดต่อที่หลอกล้อและค่อยๆ ไต่ระดับความสยองขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะฉากของคุณป้าภารโรงประจำโรงเรียน หรือฉากการออกล่าล้างแค้นของบุษบาในช่วงท้ายเรื่องที่ทั้งสยองและหวาดเสียวจนเรานั่งไม่ติดเบาะ (โดยเฉพาะฉากในบ้านของหยาที่ทำให้เรากลัวการใช้ปากกาไปพักหนึ่ง)

สำหรับใครที่ชื่นชอบความตลกขบขันปนสยองใน ธี่หยด 2 ผลงานครั้งนี้ตัวผู้กำกับก็ไม่ลืมที่จะหยอดมุกตลกเข้ามาให้เราคลายความตึงเครียดเช่นเดิม หรือฉากแอ็กชัน Long Take ของตัวละครจินที่ถูกออกแบบได้อย่างน่าสนใจ และฉากที่จินและเพื่อนๆ เข้าไปในบ้านของบุษบาก็เป็นการผสมแอ็กชันและความสยองขวัญได้อย่างลงตัวและช่วยให้ตัวภาพยนตร์มีสีสันขึ้นไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม ATTACK วิญญาณเลขที่ 13 ก็มีข้อสังเกตที่ส่วนตัวผู้เขียนแอบติดขัดเช่นกัน ประการแรกคือผู้กำกับและทีมสร้างมีการใส่ดนตรีประกอบที่เยอะเกินความจำเป็น ซึ่งการใส่ดนตรีประกอบเข้ามาเพื่อสร้างความลุ้นระทึกในฉากสยองขวัญถือเป็นเรื่องปกติที่เราคุ้นเคยกันดี แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้กลับใส่ดนตรีประกอบดังกล่าวไว้ในหลายฉาก เช่น ในฉากธรรมดาๆ ที่ตัวละครกำลังเดินขึ้นดาดฟ้าก็มีดนตรีประกอบดังขึ้นเพื่อให้ฉากนั้นดูน่าตื่นเต้น หรือบางฉากที่เราคิดว่าหากไม่ใส่ดนตรีประกอบเข้ามาก็อาจทำให้เรื่องราวดูลุ้นระทึกมากกว่า มันจึงส่งผลให้ดนตรีประกอบที่ควรจะช่วยขับเคลื่อนอารมณ์ของผู้ชมในหลายๆ ฉากกลับทำให้เราหลุดโฟกัสกับเหตุการณ์บนหน้าจอแทน

อีกหนึ่งจุดที่อาจไม่ใช่ข้อสังเกต แต่แอบเสียดายเป็นการส่วนตัวคือการนำเสนอเรื่องราวของตัวละครรอบข้างอย่าง หงส์, หยา, อร และ กรรณ ที่ดูเรียบแบนไปสักหน่อย เนื่องจากตัวภาพยนตร์ไม่ได้พาเราไปสำรวจเรื่องราวของพวกเขามากนัก เช่น เรื่องราวระหว่างหยาและอรที่ดูเหมือนภาพยนตร์จะแทรกประเด็นความสัมพันธ์ไว้ แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้ถูกหยิบมาขยายความ หรือเรื่องราวของหงส์และจินที่เคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อนก็ไม่ได้ถูกเล่าให้ผู้ชมรู้จัก จนรู้สึกว่าลงท้ายแล้วถ้าต้องเลือกระหว่างการมีอยู่ของตัวละครบางตัวที่ใส่เข้ามาแล้วทำให้ผู้ชมขาดมิติ สู้ตัดออกไปเลยก็น่าจะไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อหนัง

เพราะสิ่งที่ส่งผลตามมาคือมันทำให้เราไม่ค่อยอินกับการกระทำ การเฉลยปมปัญหา และชะตากรรมของตัวละครในช่วงท้ายเรื่อง กล่าวคือฉากสยองขวัญต่างๆ ที่ผู้กำกับและทีมสร้างนำเสนอนั่นยังคงสร้างความหวาดกลัวและลุ้นระทึกจนเรานั่งไม่ติดเก้าอี้ รวมถึงการหักมุมเองก็สร้างเซอร์ไพรส์ให้เราได้ตามที่ผู้สร้างต้องการ แต่เมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างจบลง สิ่งที่เราจดจำได้ดีคือความสยองขวัญ ความตื่นเต้น แต่เรากลับไม่มีความผูกพัน อยากเอาใจช่วย หรือมีความรู้สึกร่วมไปกับบทสรุปของตัวละครตัวใดตัวหนึ่งสักเท่าไหร่

โดยภาพรวม ATTACK วิญญาณเลขที่ 13 ถือเป็นการเปิดตัวโปรเจกต์แรกจาก 13 Studio ที่สร้างความสยองจนเรานั่งไม่ติดได้ตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ขณะเดียวกัน ตัวภาพยนตร์ก็มีแผลกวนใจอยู่บ้างในแง่ของการใส่ดนตรีประกอบเยอะเกินความจำเป็น สุดท้ายคือเรื่องราวของตัวละครที่สามารถจะขยับขยายเรื่องราวให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันได้มากขึ้น

ATTACK วิญญาณเลขที่ 13 จึงอาจเป็นเหมือนบ้านผีสิงที่สร้างความสยองให้เราได้ดีตลอดทาง พร้อมกับมีปริศนาแอบซ่อนไว้ให้เราร่วมกันไข แต่หลังจากที่เดินออกจากบ้านมาแล้วก็จบกันไป ไม่ได้รู้สึกอยากเดินกลับเข้าไปอีกครั้ง

ATTACK วิญญาณเลขที่ 13 มีกำหนดฉายวันที่ 19 มิถุนายนนี้ ในโรงภาพยนตร์

รับชมตัวอย่างได้ที่: