ทีม ‘ตราหมี’ แอตเลติโก มาดริด สร้างปาฏิหาริย์ในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 ด้วยการพลิกสถานการณ์จากที่ตามหลัง ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล 2 ลูก กลับมารัวแซงเอาชนะได้อย่างสุดเหลือเชื่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ 3-2 ส่งผลให้แชมป์เก่าถูกหยุดเส้นทางเอาไว้แค่รอบนี้
เกือบตลอด 90 นาทีที่แอนฟิลด์ เป็นลิเวอร์พูลที่ครองเกมบุกได้มากกว่า และได้ประตูนำ 1-0 ในช่วงครึ่งแรกจากทางด้าน จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ที่เติมขึ้นมาโหม่งลูกเปิดจา ก อเล็กซ์ ออกซ์เลด-เชมเบอร์ลิน เข้าไป แต่ในช่วงครึ่งเวลาหลังเจ้าบ้านซึ่งมีโอกาสที่จะได้ประตูมากมายกลับไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้ ทำให้เมื่อเกมจบลง สกอร์รวมเสมอกัน 1-1 และต้องเล่นกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ
เมื่อเข้าช่วงต่อเวลาพิเศษ ลิเวอร์พูลที่เป็นฝ่ายโหมกระหน่ำตลอดทั้งเกมได้ประตูที่ต้องการในนาทีที่ 94 เมื่อไวจ์นัลดุมลากบอลตะลุยฝั่งขวาขึ้นมาก่อนเปิดให้โรแบร์โต เฟอร์มิโน ขึ้นโหม่งไปชนเสา แต่บอลยังกระดอนมาเข้าทางซ้ำตุงตาข่าย เป็นประตู 2-0 ของลิเวอร์พูล ที่จะทำให้ทีมเข้ารอบ และเป็นประตูแรกของกองหน้าชาวบราซิลที่ยิงในแอนฟิลด์ในฤดูกาลนี้ด้วย
แต่สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อแอตเลติโก มาดริด ตีไข่แตกได้ในอีก 3 นาทีต่อมา จากความผิดพลาดของอาเดรียน ประตูสำรองที่ต้องลงทำหน้าที่แทน อลิสซง เบ็คเกอร์ มือหนึ่งที่บาดเจ็บ เมื่อเตะเคลียร์บอลไม่ดีไปเข้าทาง เจา เฟลิกซ์ ก่อนไหลให้ มาร์กอส ยอร์เรนเต ตัวสำรองได้สับไกด้วยขวาเข้าเสาไกล ทำให้สกอร์ตามหลังแค่ 2-1 และเป็นประตูทีมเยือน ทำให้ลิเวอร์พูลต้องยิงเพิ่มอีก 1 ประตู
นอกจากจะยิงประตูเพิ่มไม่ได้ ลิเวอร์พูลที่พยายามโหมเกมบุกยังพลาดเสียประตูตีเสมออีกจากเกมสวนกลับง่ายๆ ในนาทีที่ 105 เมื่อ อัลบาโร โมราตา กองหน้าตัวสำรองได้บอลก่อนพาบอลหนีแล้วจ่ายให้ยอร์เรนเต แต่งเข้าเท้าขวาก่อนซัดหน้ากรอบเขตโทษเบียดเสาเข้าไปอย่างเฉียบขาด สกอร์เป็น 2-2 ลิเวอร์พูลต้องยิงเพิ่มอีกถึง 2 ลูก
สุดท้ายแชมป์เก่ายิงประตูคืนไม่สำเร็จ และยังมาเสียประตูปิดท้ายอีกในนาทีสุดท้ายของการต่อเวลาพิเศษเมื่อ โมราตา ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษก่อนยิงเสาแรกสบายๆ ทำให้แอตเลติโก มาดริด บุกมาชนะลิเวอร์พูลได้ 3-2 ได้ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ส่วนลิเวอร์พูลนอกจากจะตกรอบ ยังเป็นการแพ้คาบ้านครั้งแรกในรอบ 43 นัดด้วย
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์