เว็บไซต์ข่าว Bloomberg รายงานประเมินทิศทางสถานการณ์ตลาดหุ้นโลกในปี 2024 พบว่าทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียมีโอกาสที่จะมีผลการดำเนินการเหนือกว่าตลาดหุ้นใหญ่เบอร์หนึ่งของโลกอย่างสหรัฐอเมริกา โดยเป็นผลพวงจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง บวกกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีน ยักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อหุ้นราคาถูกของจีนกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง
รายงานฉบับนี้อ้างอิงจากการสำรวจความเห็นของบรรดานักยุทธศาสตร์และผู้จัดการกองทุนในเอเชียทั้งหมด 11 ราย โดย 9 ใน 11 ยังยอมรับว่าตนเองได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในเอเชียมากขึ้นในปีนี้
ทั้งนี้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน Invesco มีความเชื่อมั่นในอินเดียและญี่ปุ่น ในขณะที่ Dalma Capital Management Ltd. ให้ความสำคัญกับดุลยพินิจของผู้บริโภคและหุ้นทางการเงินบางส่วนในภูมิภาคเอเชีย ขณะที่ Kamet Capital Partners Pte. แนะให้นักลงทุนพิจารณาหุ้นเติบโตและหุ้นเทคโนโลยีเป็นหลัก
ในปี 2023 ตลาดหุ้นเอเชียไม่ค่อยสดใสสักเท่าไรนัก โดยดัชนี MSCI AC Asia Pacific มีผลงานตามหลังดัชนีอื่นๆ ทั่วโลก คือเพิ่มขึ้นเพียง 8.8% ซึ่งน้อยกว่าดัชนี S&P 500 ที่พุ่งขึ้น 24% โดยมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากตลาดหุ้นจีนที่ร่วงระนาว
อย่างไรก็ตาม ด้วยความคาดหวังที่เศรษฐกิจจีนในปีนี้จะฟื้นตัวได้ดี และการผ่อนคลายนโยบายการเงินจาก Fed ซึ่งรวมถึงการลดอัตราดอกเบี้ย ช่วยให้ธนาคารกลางในเอเชียมีพื้นที่มากขึ้นในการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของตนเอง
กระนั้นนักยุทธศาสตร์ในการสำรวจยอมรับว่ายังมีข้อกังวลที่ต้องระวัง เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มทางบวกที่คาดการณ์ไว้ โดยข้อกังวลดังกล่าวหมายรวมถึงความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์, การที่ Fed ไม่สามารถ Soft Landing ได้อย่างที่ตั้งใจ และการที่เศรษฐกิจจีนไม่ได้ฟื้นตัวอย่างที่หวัง ขณะที่ประเด็นเรื่องการเลือกตั้งในเอเชียไม่ใช่ประเด็นที่น่ากังวลแต่อย่างใด โดยบรรดานักยุทธศาสตร์เตือนว่าการคาดการณ์ทิศทางตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ดังนั้นนักลงทุนยังคงต้องศึกษาหาข้อมูลและหมั่นอัปเดตข่าวสารอยู่เสมอก่อนดำเนินการตัดสินใจลงทุนใดๆ
อ้างอิง: