วานนี้ (18 เมษายน) รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน เผยแพร่แถลงการณ์เรื่องความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงในเมียนมา โดยแสดงความกังวลต่อการสู้รบที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น และส่งผลกระทบให้พลเรือนจำนวนมากต้องพลัดถิ่น พร้อมเรียกร้องทุกฝ่ายให้ยุติการใช้ความรุนแรง
เนื้อหาแถลงการณ์มีดังนี้
“เรา ประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) มีความห่วงกังวลอย่างยิ่งต่อความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ รวมถึงในพื้นที่เมืองเมียวดี รัฐคะฉิ่น ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา และในรัฐยะไข่ของเมียนมา ซึ่งส่งผลให้พลเรือนต้องพลัดถิ่น
“เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผลกระทบทางมนุษยธรรมเพิ่มเติมจากการทวีความรุนแรงดังกล่าวของความขัดแย้งในทุกรูปแบบ เราเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติความรุนแรงโดยทันที ใช้ความยับยั้งชั่งใจอย่างสูงสุด ยึดมั่นในกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และดำเนินทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อคลี่คลายความตึงเครียด และให้ความคุ้มครองและความปลอดภัยแก่พลเรือนทุกคน ซึ่งรวมถึงคนต่างชาติและพลเมืองชาติของประเทศสมาชิกอาเซียนด้วย
“เราเรียกร้องให้ทุกฝ่ายดำเนินการอย่างเร่งด่วนในการลดผลกระทบจากความขัดแย้งที่มีต่อพลเรือน ซึ่งรวมถึงการจัดให้มีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเอื้อต่อการรับประกันการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่ทันเวลา และปลอดภัยแก่ทุกคนที่กำลังต้องการในเมียนมาโดยปราศจากการแบ่งแยก เราสนับสนุนความพยายามอย่างต่อเนื่องของศูนย์ประสานงานอาเซียนเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในการจัดการภัยพิบัติ (AHA Centre) รวมทั้งข้อริเริ่มด้านมนุษยธรรมข้ามพรมแดนของไทย ซึ่งสอดคล้องกับฉันทมติ 5 ข้อ และผ่านการประสานงานกับประธานอาเซียนผ่านผู้แทนพิเศษด้านเมียนมาของประธานอาเซียน เราเรียกร้องให้ร่วมกันสนับสนุนความพยายามในการจัดให้มีการเสวนาในประเด็นมนุษยธรรมเพื่อจัดการกับผลกระทบด้านมนุษยธรรมในเมียนมา และเรียกร้องให้มีการหารือระดับประเทศที่มีทุกฝ่ายเข้าร่วมเพื่อนำไปสู่การหาทางออกทางการเมืองในเมียนมาที่ยั่งยืนและครอบคลุม
“เรายืนยันความมุ่งมั่นที่จะให้การสนับสนุนเมียนมาเพื่อหาทางออก ผ่านการช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการนำฉันทมติ 5 ข้อไปปฏิบัติทั้งหมดอย่างเต็มที่และรวดเร็ว เนื่องจากยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้ประชาชนของเมียนมาสามารถบรรลุทางออกที่ครอบคลุม ยั่งยืน และสงบสุข ที่นำโดยเมียนมาและเป็นของเมียนมา เพื่อสันติภาพ ความมั่นคง และเสถียรภาพของภูมิภาค เรายังเน้นย้ำด้วยว่า เมียนมาที่มีสันติภาพและเป็นปึกแผ่นเป็นผลประโยชน์ของอาเซียน ในการนี้ เราเน้นย้ำการสนับสนุนต่อประธานอาเซียนและผู้แทนพิเศษด้านเมียนมาของประธานอาเซียน ซึ่งรวมถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในเมียนมา”
อ้างอิง: