แม้โลกคริปโตและ NFTs จะเป็นโลกแห่งโอกาสที่ทำให้หลายคนพลิกชะตาชีวิตกลายเป็นบุคคลร่ำรวยได้พริบตา ทว่าใช่ทุกคนจะชอบใจ?
เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ศิลปินชื่อ Shl0ms ผุดโปรเจกต์ NFT คอลเล็กชันใหม่ เพื่อประท้วงวัฒนธรรมที่ร่ำรวยของโลกคริปโต โดยเขานำรถหรู ยี่ห้อ Lamborghini มูลค่า 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8.1 ล้านบาท ไประเบิดทิ้ง และนำซากที่เหลืออยู่ไปทำ NFT จำนวน 999 ชิ้นงาน
“เทคโนโลยีนี้มีแนวโน้มที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ มีสิ่งดีๆ มากมายที่เราสามารถทำได้ แต่ก็มีสิ่งเลวร้ายมากมายเช่นกัน” Shl0ms เผยกับ The Block เขายังบอกอีกว่าเหตุที่เลือกรถ Lamborghini เป็นเพราะคนส่วนใหญ่ที่เล่นคริปโตชอบอ้างอิงถึง
“Lambo เป็นตัวแทนของคนธรรมดาที่ใช้คริปโต เป็นหนทางในการทำเงินอย่างรวดเร็ว”
โปรเจกต์นี้ Shl0ms ได้รับเงินสนับสนุนจากนักลงทุนเพียงรายเดียว และใช้เงินส่วนตัวในการขับเคลื่อน เขาซื้อ Lamborghini Huracán มือสองที่ผ่านการใช้งานมาอย่างหนักหน่วง ด้วยเงิน 250,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 8.1 ล้านบาท จากนั้นก็เลือกทะเลทรายสักแห่งในสหรัฐอเมริกา และระเบิดมันทิ้งในทันทีหลังจากรับรถได้ไม่นาน
ความยากของการจัดทำ NFT คือการระเบิดรถอย่างไรไม่ให้ชิ้นส่วนพังทั้งหมด ทีมงานต้องใช้เวลามากถึง 2 อาทิตย์ในการทดสอบระเบิด รวมถึงลองระเบิดรถคันอื่นๆ เพื่อให้เหลือซากสำหรับมาทำ NFT หลังจากระเบิดรถเรียบร้อย ทีมงานหยิบชิ้นส่วนขึ้นมาและบันทึก พวกเขาถ่ายวิดีโอแบบหมุนของแต่ละชิ้นในความละเอียด 4K
คอลเล็กชันนี้ปล่อยมินต์ครั้งแรกในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประกอบด้วยชิ้นงานจำนวน 999 ชิ้น โดยแบ่งออกมาเป็น 888 ชิ้น สำหรับการขาย และอีก 111 ชิ้น สำหรับพาร์ตเนอร์
ทั้งนี้ทั้งนั้น มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า โปรเจกต์นี้เป็นคอลเล็กชัน NFT ที่ย้อนแย้งโดยแท้ ทำลายวัตถุในชีวิตเพราะว่าเกลียดวัฒนธรรมการรวยเร็วของโลกคริปโต แต่สุดท้ายตนก็สร้างคอลเล็กชันขึ้นมาเพื่อหารายได้จากโลกนี้ ซึ่ง Shl0ms ตระหนักดีถึงเรื่องนี้ โดยเขาบอกว่าตนวางแผนใช้เงินทุนจากการขาย NFT เพื่อสร้าง DAO ที่ไม่มีเป้าหมายทางการเงิน และมีจริยธรรมมากขึ้น แต่เบื้องต้นยังไม่เปิดเผยว่าเป็น DAO เกี่ยวกับอะไร
ภาพ: Courtesy of Brand
อ้างอิง:
