วันนี้ (12 กรกฎาคม) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ดุสิต ได้ยื่นคำร้องขอฝากขัง ณัฐวุฒิ เทียมศักดิ์ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาคดีลอบวางเพลิง โดยเป็นการฝากขังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
คำร้องระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 เวลาประมาณ 03.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลประตู 3 ถนนพิษณุโลก ได้มีชายต้องสงสัย (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) จำนวน 1 คน มีลักษณะรูปพรรณรูปร่างอ้วนท้วม สวมเสื้อคอวีแขนสั้นสีเขียว สกรีนคำว่ากองทัพบก สวมกางเกงขาสั้นสีดำ สวมรองเท้าแตะสีดำ ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นคิวบิก สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดที่บริเวณประตู 3 ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ โดยอยู่ในสถานที่เกิดเหตุเป็นเวลาทั้งหมด 15 นาที หลักจากนั้นชายต้องสงสัยดังกล่าวได้ลงจากรถจักรยานยนต์ และได้นำถังสเตนเลสลักษณะคล้ายแกลลอนบรรจุของเหลวคล้ายน้ำมัน มาราดที่บริเวณรั้วประตู 3 ทำเนียบรัฐบาล แล้วชายต้องสงสัยดังกล่าวจึงรีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
วันเดียวกัน พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ได้ร่วมกันตรวจสถานที่เกิดเหตุที่บริเวณรั้วประตู 3 ทำเนียบรัฐบาล แขวงและเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร (กทม.) พบถังโลหะทรงสี่เหลี่ยมจำนวน 1 ใบ ภายในมีของเหลวกลิ่นคล้ายน้ำมันอยู่ ซึ่งเป็นของผู้ต้องหา ผลการตรวจพบผู้ต้องสงสัยได้เทราดของเหลวไว้บนพื้นถนนบริเวณที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนจึงยึดไว้เป็นของกลาง และได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานกลางเพื่อตรวจพิสูจน์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ดุสิต ได้สืบสวนจากกล้องวงจรปิด ทราบว่า เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 หลังจากที่ชายต้องสงสัยคนดังกล่าวก่อเหตุที่บริเวณประตู 3 ทำเนียบรัฐบาล เสร็จแล้ว ได้ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นคิวบิก สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไปทางแยกนางเลิ้ง แล้วได้พบรถต้องสงสัยลงสะพานข้ามแยกลำสาลีขาออก เลี้ยวซ้ายย้อนศรกลับไปเข้าซอยรามคำแหง 101 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงตรวจสอบเพิ่มเติม พบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณด่านล่างอาคารเลขที่ 8/45 ซอยรามคำแหง 60/4 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. และได้สืบสวนเพิ่มเติมจนทำให้ทราบว่าผู้ครอบครองรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวคือ ณัฐวุฒิ เทียมศักดิ์ ผู้ต้องหา ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายจับณัฐวุฒิ ผู้ต้องหา โดยกล่าวหาว่า เทหรือทิ้งสิ่งปฏิกูลหรือสิ่งอื่นใดบนถนน และตระเตรียมเพื่อกระทำความผิดวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น
ต่อมาเวลาประมาณ 20.25 น. วันที่ 10 กรกฎาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต ได้รับแจ้งจากสายลับว่า พบชายลักษณะคล้ายบุคคลตามหมายจับอยู่บริเวณท้ายซอยลาดพร้าว 96 หน้าอาคาร 96 แมนชั่น แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบผู้ต้องหาอยู่บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ดำเนินคดีตามกฎหมาย ในความผิดฐานเทหรือทิ้งสิ่งปฏิกูล มูลฝอย น้ำโสโครก หรือสิ่งอื่นใดบนถนน และตระเตรียมเพื่อกระทำความผิดวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 33 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 219 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 เหตุเกิดที่บริเวณด้านหน้าประตู 3 ทำเนียบรัฐบาล ถนนพิษณุโลก เขตดุสิต กทม.
ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนยังระบุว่า ได้สอบสวนและควบคุมตัวผู้ต้องหามาโดยตลอด จะครบกำหนดควบคุมตัวแล้ว แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น รอสอบปากคำพยานอีก 5 ปาก, รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้มือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา ด้วยเหตุผลและความจำเป็นดังกล่าวข้างต้นจึงขออนุญาตศาลฝากขังผู้ต้องหาไว้ มีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 12-23 กรกฎาคม 2564 ซึ่งศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
ขณะที่จากการสอบสวนเบื้องต้น ณัฐวุฒิยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันตามหมายจับจริง เคยเป็นทหารเกณฑ์ แต่ปัจจุบันปลดประจำการแล้ว ไม่ได้รับราชการหรือเกี่ยวข้องกับกองทัพ สาเหตุที่กระทำผิดเนื่องจากพ่อติดโควิด หาเตียงเข้าโรงพยาบาลไม่ได้ จึงตัดสินใจจะจุดเผาประท้วงนายกรัฐมนตรี แต่มีเจ้าหน้าที่มาตรวจพบก่อนจึงหลบหนี
