หลังผ่านมรสุมจากทัวร์นาเมนต์นานาชาติ APL 2024 เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา กับการที่ต้องปรับทัพเฉพาะกิจ สลับ TaoX จากซัพพอร์ตเข้าสู่ตำแหน่ง Jungle แทน AlmondP จนท้ายที่สุดผลงานสวนทางกับความคาดหวัง เพราะต้องจอดตั้งแต่รอบ Swiss Stage กับฟอร์มที่น่าเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม หลังการปรับทัพครั้งสำคัญด้วยการปล่อย AlmondP ไปอยู่กับ Talon พร้อมดึง Bboss ที่แยกทางกับ Hydra มาเสริมแกร่งในตำแหน่ง Jungle และส่งกัปตัน TaoX สู่การเป็นซัพพอร์ตตามเดิม ทำให้ Bacon Time (BAC) กลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีอีกครั้งใน RoV Pro League 2024 Winter หรือ RPL 2024 Winter
AROUND ESPORTS ขอถือโอกาสนี้วิเคราะห์ฟอร์มสุดปังของแก๊งเจ้าหมู ว่าอะไรที่ทำให้พวกเขากลับมาสู่เส้นทางที่ควรจะเป็นได้อีกครั้ง
(ความจริง) ทีมแทบไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย
เชื่อว่าแฟนเกมหลายท่านอาจจะติดตาจากฟอร์มของ Bacon Time ใน APL 2024 ไม่น้อย จนทำให้อาจหลงลืมไปว่าจริงๆ แล้วถ้าบิดเข็มนาฬิกาย้อนกลับไปอีกสักนิด ในศึก RPL 2024 Summer พวกเขาเป็นถึงรองแชมป์ในครั้งนั้น นั่นหมายความว่าในโปรลีกฤดูกาลที่ผ่านมา BAC เป็นรองเพียง Talon ที่กำราบพวกเขาได้ในรอบชิงชนะเลิศ
และเหตุการณ์สลับตำแหน่งสุดโกลาหลก่อนทัวร์นานาชาติล่าสุด ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างไม่เป็นไปตามที่คิด รวมถึงผลงานที่ไม่เป็นดั่งใจหวัง
แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 เดือนก่อน RPL 2024 Winter แก๊งลูกหมูปรับส่ง TaoX กลับไปสู่ซัพพอร์ต และปรับตำแหน่ง Jungle ด้วยการเติม Bboss หนึ่งในผู้เล่นมือฉกาจของเวทีโปรลีกมาเติมแกร่ง ร่วมกับผู้เล่นชุดเดิมอย่าง MarkKy, Kimsensei และ Erez ทำให้ทีมออกสตาร์ทในช่วงเลกแรกแบบไร้พ่าย ชนะรวด 8 เกมติด
โดยสิ่งที่สะท้อนออกมาจากผลงานนี้คือ การทำให้เห็นว่า 4 ผู้เล่นเดิม + 1 ผู้เล่นใหม่แบบที่ทุกคนได้เล่นตามตำแหน่งที่ถูกที่ควร ฟอร์มของทีมก็แทบจะไม่ได้ต่างไปจากช่วงต้นปีมากนัก เพราะ BAC ยังคงเป็นทีมที่แข็งแกร่งจากทีมเวิร์กและฝีมือส่วนบุคคลที่อยู่ระดับท็อปของลีกทุกคน
มาโครเกมกลับมาแน่นเหมือนเคย
สิ่งหนึ่งที่ BAC ชุดนี้กลับมาทำได้ดีเหมือนเดิมคือมาโครของเกม ที่ทำได้ดีและน่าสนใจมาก ในหลายๆ เกมที่เมื่อไรได้บุกและได้คุมเกม พวกเขาจะคุมเกม กินพื้นที่คู่แข่ง ตัดทรัพยากรเพื่อสร้างความได้เปรียบให้ทีม จนคู่แข่งแทบไม่มีโอกาสได้กลับมาตั้งตัวสู้กลับได้ง่ายๆ (ถ้าไม่พลาดหรือโดนช็อตเซอร์ไพรส์)
อีกทั้งการมาของ Bboss ในตำแหน่ง Jungle คือตัวแปรสำคัญที่ทำให้ BAC กลับมาคุมเกมได้เหนียวแน่นขึ้น เพราะไม่ใช่แค่เรื่องของการหาเงินในเกมเก่ง แต่เด็กหนุ่มคนนี้เข้าใจสเกลของเกม อ่านกระแสเกมออกว่าในจังหวะนั้นๆ ควรเล่นแบบไหน และสำคัญคือสามารถดึงประสิทธิภาพของฮีโร่ในตำแหน่ง Jungle มาเล่นได้เป็นอย่างดี จนบางครั้งทำให้คู่แข่งบางทีมต้องยอมเสียสลอตหน้าดราฟต์ เพื่อแบนจี้ตัวละครของ Bboss เลยทีเดียว
เมื่อ Erez เล่นเข้าระบบทีมมากขึ้น
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำได้ดีขึ้นเช่นกันคือ การเล่นของ Erez ในตำแหน่ง Abyssal Dragon Lane ที่ดูจะเนียนตาและมีความเข้าใจในจังหวะภาพรวมของทีมมากกว่าฤดูกาลที่ผ่านมา (รวมถึงการยืนเลนคู่กับ TaoX เริ่มซิงก์กันมากขึ้น) แบบที่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์การเล่นเฉพาะตัวที่กล้าได้กล้าเสีย และฝีมือในฐานะตัวจ่ายดาเมจที่ยังเด็ดดวงเช่นเคย
การดราฟต์ที่ยืดหยุ่นมากขึ้น
ถึงแม้ว่าการดราฟต์ของ Bacon Time อาจจะยังไม่ใช่จุดที่สามารถใช้คำว่าสมบูรณ์แบบในตอนนี้ แต่ถ้าเทียบกับสองทัวร์นาเมนต์ที่ผ่านมา ดูเหมือนโค้ช Artie และทีมงานหลังบ้านที่คอยป้อนข้อมูลอยู่เบื้องหลังนักแข่ง จะเริ่มเข้าใจวิธีการเล่นของผู้เล่นชุดนี้และจัดชุดคอมพ์ฮีโร่ให้เข้ามือนักแข่งกว่าเดิม รวมถึงการแก้เกมและอ่านแผนของคู่แข่งก็ทำได้ดีมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงการวิเคราะห์ ‘จุดเด่น’ แบบเบื้องต้นผ่านการรับชมเกมการแข่งขันเท่านั้น เพราะในทางกลับกัน Bacon Time ชุดนี้ยังมีจุดที่รอวันปรับปรุงอยู่ไม่น้อย เช่น หน้าดราฟต์ที่ยังถูกคู่แข่งเดาทางได้ จังหวะทีมไฟต์และช็อตนาทีสำคัญๆ ยังมีความหละหลวมและผิดพลาดอยู่บ้าง ซึ่งต้องมารอดูกันว่าในรอบเก็บคะแนนนับจากนี้ไปจนถึงรอบออฟไลน์ (ที่พวกเขามีโอกาสสูงที่จะได้เข้าไปเล่น) เหล่าแก๊งลูกหมูจะพัฒนาและแก้ไขได้มากถึงขั้นกลับไปสู่ตำแหน่งแชมป์ได้อีกหรือไม่
แต่ถึงตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า จากฟอร์มตอนนี้ Bacon Time เวอร์ชันใหม่เวอร์ชันนี้ มีโอกาสไม่น้อยที่จะกลับไปทวงบัลลังก์แชมป์ลีกอีกครั้ง