×

ศาลอาญาจำคุก ‘ทนายอานนท์’ 2 ปี 20 วัน คดี ม.112 ปราศรัยในม็อบแฮร์รี่ พอตเตอร์ 2 เมื่อปี 2564

โดย THE STANDARD TEAM
29.04.2024
  • LOADING...
ทนายอานนท์

วันนี้ (29 เมษายน) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ1676/2564 พนักงานอัยการ สำนักงานอาญากรุงเทพใต้ ยื่นฟ้อง อานนท์ นำภา ทนายความและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง

 

ในความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์, พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน, พ.ร.บ.โรคติดต่อ และ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง

 

จากกรณีที่จัดการปราศรัยถึงข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันฯ ในกิจกรรม ‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน’ หรือ #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์2 ที่ลานหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 

 

ศาลพิเคราะห์พยานคู่ความทั้งสองฝ่ายรับฟังได้ว่า พยานโจทก์ทั้งผู้ที่ได้ยิน ได้ฟังจำเลยกล่าวปราศรัยในวันเกิดเหตุ และที่ได้ทราบและอ่านคำกล่าวปราศรัยของจำเลยในภายหลัง ล้วนเบิกความให้ความเห็นสรุปรวมว่า จำเลยกล่าวใส่ความสถาบันฯ กล่าวหมิ่นประมาทดูหมิ่นสถาบันฯ แม้ว่าจำเลยจะเบิกความว่า จำเลยวิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา พูดเรื่องการปฏิรูปสถาบันฯ และออกมาเรียกร้อง 

 

เมื่อพิจารณาถึงข้อความคำปราศรัยของจำเลยตามแล้ว เห็นได้ว่าจำเลยมุ่งหมายกล่าวถึงรัชกาลที่ 10 โดยตรง หากจำเลยมุ่งหมายจะปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์และวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล​จำเลยก็หาต้องกล่าวถึงในลักษณะดังกล่าวในคำปราศรัยด้วยไม่ ไม่มีเหตุจำเป็นอย่างใดที่จำเลยจะต้องยกเอาสถาบันอันเป็นที่เคารพของประชาชนมากล่าวเปรียบเทียบเปรียบเปรยในทางที่เสื่อมเสีย

 

อีกทั้งเมื่อพิจารณาข้อความคำปราศรัยและบริบทในการอ้างพระนามในคำปราศรัยแล้ว เห็นว่าจำเลยเจตนาให้ประชาชนหรือผู้ที่ได้ฟังคำปราศรัย เป็นการใส่ความทำให้เสื่อมเสียต่อพระเกียรติยศ ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ด้อยค่า 

 

ข้ออ้างของจำเลยที่นำสืบดังกล่าวขัดต่อเหตุผล ไม่มีน้ำหนักรับฟังหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ อีกทั้งไม่มีบทบัญญัติเหตุยกเว้นความผิดหรือยกเว้นโทษได้ทำนองเดียวกันกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 และ 330 การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น พระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

 

พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรา 9 และ 18, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ มาตรา 34 และ 51, พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยการใช้เครื่องขยายเสียง มาตรา 4 วรรคหนึ่ง และมาตรา 9 วรรคหนึ่ง ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91

 

ฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ จำคุก 3 ปี 

 

ฐานร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ 

 

เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 1 เดือน 

 

ฐานร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ 150 บาท

 

ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กระทงละ 1 ใน 3 

 

คงจำคุกฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ จำคุก 2 ปี 

 

ฐานร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 20 วัน 

 

ฐานร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ 100 บาท 

 

คงจำคุกรวม 2 ปี 20 วัน และปรับ 100 บาท 

 

ให้นับโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ 2841/2566 และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ 56/2567 ของศาลอาญา ริบเครื่องปั่นไฟ จำนวน 1 เครื่อง ลำโพง 8 ตัว พาวเวอร์แอมป์ 1 เครื่อง เครื่องผสมสัญญาณเสียง 1 เครื่อง เครื่องรับสัญญาณไมโครโฟน 1 ตัว และไมโครโฟนไร้สาย 2 ตัว

 

ทั้งนี้ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รายงานว่า ปัจจุบันอานนท์ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในคดีมาตรา 112 รวม 3 คดีด้วยกัน รวมโทษจำคุกหลังลดหย่อนของทั้ง 3 คดีแล้วอยู่ที่ 10 ปี 20 วัน

 

ทั้งนี้ อานนท์ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 จากการปราศรัยและโพสต์ข้อความในช่วงปี 2563-2564 รวมทั้งสิ้น 14 คดี

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X