ดูเหมือนว่าแบรนด์เสื้อผ้า Fast-Fashion ชื่อดังจากอเมริกาอย่าง Forever 21 จะอยู่ในช่วงฤดูมรสุม เพราะไม่ได้มีเพียงแค่ประเด็นแบรนด์มีสิทธิ์ล้มละลายตามที่มีข่าวออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อน
ล่าสุดทาง Forever 21 และร้านเครื่องสำอาง Riley Rose ที่เป็นเจ้าของด้วย ก็เพิ่งโดนนักร้องสาว อะรีอานา กรานเด ยื่นฟ้องที่ลอสแอนเจลิสเป็นจำนวนเงิน 10 ล้านดอลลาร์ หรือราว 300 ล้านบาท โทษฐานพยายามใช้ชื่อ ผลงาน และคอนเซปต์อัลบั้ม Thank U, Next ของเธอเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทาง Forever 21 และ Riley Rose ได้เริ่มกระทำความผิดตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงเดือนเมษายนปีนี้ โดยมีการนำภาพหรือคอนเซปต์กว่า 30 รายการแบบไม่ได้รับอนุญาตมาใช้เพื่อการตลาด เช่น รีโพสต์ภาพมิวสิกวิดีโอเพลง Thank U, Next ลงโซเชียลของตัวเอง และทำสินค้าที่คาดผมคล้ายในมิวสิกวิดีโอเพลง 7 Rings มาขาย ซึ่งอะรีอานาได้บอกว่า ทาง Forever 21 พยายาม Branding เสมือนว่าเธอไฟเขียวและสนับสนุน
แม้ว่าจริงๆ แล้วทางแบรนด์ซึ่งก่อตั้งโดยสองสามีภรรยาชาวเกาหลี จางโดวอนและ จางจินซุก ได้ติดต่ออะรีอานาให้มาเป็นพรีเซนเตอร์จริง แต่เธอและทีมงานปฎิเสธเพราะราคาค่าตัวต่ำกว่ามาตรฐาน โดยในเอกสารที่อะรีอานายื่นฟ้องยังระบุว่า ตัวแทนทางกฎหมายของเธอได้บอกให้ Forever 21 ลบภาพต่างๆ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ แต่ Forever 21 ไม่ลบจนถึงเดือนเมษายนที่ผ่านมา
หากถามว่าน่าแปลกใจไหมที่ Forever 21 โดนฟ้องในครั้งนี้ ก็ต้องบอกว่าไม่ เพราะทางแบรนด์เคยมีคดีหลายครั้งกับนักร้องและดีไซเนอร์ อาทิ Diane Von Furstenberg, Anna Sui และ Gwen Stefani หรือแม้กระทั่งบริษัทซอฟต์แวร์อย่าง Adobe เรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์สินค้า แถม Forever 21 ก็มีประเด็นเรื่องวัสดุและคุณภาพเนื้อผ้าที่นำมาใช้ผลิตสินค้าหลายครั้งที่อยู่ในระดับไม่ผ่านมาตรฐาน
มากไปกว่านั้น การที่แบรนด์แฟชั่นระดับ Fast-Fashion มีการนำภาพหรือผลงานของศิลปินระดับโลกไปใช้โดยไม่รับอนุญาต ก็กลายเป็นประเด็นร้อนและละเอียดอ่อนมากยิ่งขึ้นทุกวัน เพราะศิลปินเองก็หันมาสร้างรายได้มหาศาลผ่านการขายสินค้าตัวเองช่วงทัวร์คอนเสิร์ต หรือที่นำไปทำ Product Placement ในมิวสิกวิดีโอตัวเองและนำมาขายบนเว็บไซต์เอง ซึ่งหากแบรนด์อื่นอยากนำไปใช้ก็ต้องยอมเสียค่า Licensing Fee เหมือนแบรนด์คู่แข่งของ Forever 21 อย่าง H&M ที่เพิ่งมีการทำไลน์เสื้อผ้า Sweetener World Tour ออกมา
ภาพ: Kevin Mazur / Getty Images for AG
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: