วันนี้ (30 สิงหาคม) วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ในฐานะคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) กล่าวถึงการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจที่จะต้องใช้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565
โดยเมื่อถามว่าการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่ ที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะกำกับดูแล มอบให้ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เป็นผู้แต่งตั้ง จะต้องยึดหลักอะไรในการแต่งตั้ง วิษณุกล่าวว่า ใช้หลักการใน พ.ร.บ.ตำรวจฉบับใหม่ ใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน
ส่วนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่จะถูกพิจารณาแต่งตั้งเป็น ผบ.ตร. จะใช้ระบบอาวุโส หรือความรู้ความสามารถนั้น วิษณุกล่าวว่า มีการพิจารณาความอาวุโสมาประกอบแต่ไม่ได้ใช้เป็นหลัก ไม่เหมือนการแต่งตั้งผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่จะใช้ระบบอาวุโส
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการนำรอง ผบ.ตร. ในลำดับที่ 4 พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ขึ้นมาพิจารณาเป็น ผบ.ตร. สามารถฟ้องร้องได้หรือไม่ วิษณุกล่าวว่า ตนไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับตอนเลือกใช้เหตุผลอะไร คนเลือกจะต้องบอกเหตุผล เพราะถ้าเหตุผลฟังได้ก็แล้วไป
พร้อมยกตัวอย่าง พล.ต.อ. วิระชัย ทรงเมตตา กับ พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ซึ่งโดยอาวุโสจะเป็น พล.ต.อ. วิระชัย แต่เมื่ออธิบายเหตุผลว่าใครเหมาะกว่า ซึ่งที่ประชุมเป็นผู้ลงมติอีกครั้ง และก็ไม่จำเป็นว่าที่ประชุมจะต้องลงมติตามที่เสนอ เมื่อลงมติตามที่เสนอก็จบ ซึ่งหลักการเลือกตอนนั้นใช้หลักการเดียวกับการเลือกตอนนี้
เมื่อถามว่าการเสนอแต่งตั้ง ผบ.ตร. จะมาจาก ผบ.ตร. คนเก่าหรือนายกรัฐมนตรี วิษณุกล่าวว่า เป็น ผบ.ตร. คนเก่า แต่เนื่องจาก ผบ.ตร. คนเก่ามีส่วนได้เสีย ผู้เสนอจึงกลายเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เสนอแล้วก็ไม่ใช่ว่าต้องเอาตามนั้น ซึ่งการแต่งตั้ง ผบ.ตร. จะขึ้นอยู่กับการนำลำดับอาวุโส และความเหมาะสมมาประกอบกันหลายอย่าง
