ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท Hon Hai Precision Industry Co. หรือ Foxconn ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วน iPhone รายใหญ่ให้กับ Apple ออกมาประกาศว่า ทางบริษัทมีศักยภาพมากพอที่จะผลิต iPhone ทั้งหมดนอกประเทศจีนได้หากจำเป็น หลังสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยังไม่มีท่าทีว่าจะคลี่คลายลง
ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาขู่ว่า สหรัฐฯ จะเก็บภาษีครอบคลุมสินค้านำเข้าของจีนมูลค่า 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับจีนได้ ซึ่งถือเป็นการสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับสงครามการค้าอีกระลอก ขณะเดียวกันยังเป็นการเพิ่มภาระภาษีให้กับผลิตภัณฑ์ที่ทำเงินมากที่สุดของ Apple ซึ่งนั่นอาจบีบให้ Apple ต้องขึ้นราคาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในท้ายที่สุด
ทั้งนี้ จีนถือเป็นฟันเฟืองสำคัญของธุรกิจของ Apple เนื่องจากเป็นฐานการผลิต iPhone และ iPad อีกทั้งยังเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของ Apple
หยาง หลิว หัวหน้าฝ่ายเซมิคอนดักเตอร์ เปิดเผยต่อนักลงทุนในประเด็นดังกล่าวว่า ทางบริษัทจะสนับสนุน Apple อย่างเต็มกำลัง หากต้องมีการปรับฐานการผลิต เนื่องจากขณะนี้ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ทิศทางของสงครามการค้าได้ โดยในปัจจุบันกำลังการผลิต iPhone กว่า 25% อยู่นอกประเทศจีน และทางบริษัทยังได้ลงทุนในอินเดียเพิ่มเติมอีกด้วย
หลิวกล่าวย้ำว่า “เรามีศักยภาพมากพอที่จะรองรับอุปสงค์จาก Apple ได้อย่างแน่นอน” โดยข่าวดังกล่าวได้หนุนให้หุ้นของ Apple ขยับขึ้นกว่า 1% หรือแตะที่ 194.99 เหรียญสหรัฐเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า อินเดียจะก้าวขึ้นมาเป็นฐานการผลิตหลักของ iPhone หรือไม่ ซึ่งในขณะนี้ Foxconn ได้ทดสอบสายการผลิต iPhone XR ในอินเดีย และวางแผนที่จะเริ่มดำเนินการผลิตล็อตใหญ่ในโรงงานที่เมืองเจนไน ขณะที่ iPhone รุ่นเก่าก็ประกอบขึ้นที่โรงงานวิสตรอน เมืองบังกาลอร์
นอกจากนี้ Foxconn ยังตกลงที่จะสร้างโรงงานในรัฐวิสคอนซิน ซึ่งจะมีจำนวนพนักงานราว 13,000 ตำแหน่ง เพื่อแลกกับเงินจูงใจจากรัฐบาลสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 4.5 พันล้านเหรียญ อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นโรงงานที่จ่ายค่าแรงต่ำ แต่ทาง Foxconn ก็ออกมายืนยันแล้วว่า ทางบริษัทจะเดินหน้าพัฒนาโครงการนี้ต่อไป และจะจ้างแรงงานชาวอเมริกันให้ได้ 2,000 ตำแหน่งภายในปีหน้า
สำหรับมุมมองของผู้เชี่ยวชาญนั้น นีล เมวสตัน นักวิเคราะห์จาก Strategy Analytics กล่าวว่า สหรัฐฯ ถือเป็นตลาดขนาดใหญ่ของ iPhone ฉะนั้น Foxconn ควรต้องสร้างโรงงานผลิตขนาดยักษ์อย่างน้อย 1-2 โรงงานนอกประเทศจีน เพื่อให้สามารถรองรับอุปสงค์จากสหรัฐฯ ได้มากพอ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดปัญหาที่ลูกค้าต้องรอของนาน หรือมีปัญหาสินค้าขาดสต๊อกได้
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: