‘Apple’ ได้ออกมาประกาศจะขึ้นค่าแรงสำหรับพนักงานในองค์กรและร้านค้าปลีกในปลายปีนี้ โดยการเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นจากช่วงเวลาในอดีตที่ตลาดแรงงานตึงตัวในสหรัฐอเมริกา ทั้งจากการที่พนักงานต้องต่อสู้กับสภาวะเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น
การเคลื่อนไหวของ Apple นี้อาจเกิดจากการที่ Google, Amazon และ Microsoft ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างเงินเดือนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อจ่ายเงินให้พนักงานมากขึ้นเพื่อรักษาพนักงานของตนไว้ พร้อมทั้งดึงผู้มีความสามารถเข้ามาอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เมื่อ ‘กำไร’ ต้องมาก่อน ‘การออกแบบ’ เปิดบันทึกเบื้องหลังการอำลาของ โจนี ไอฟ์ และการเปลี่ยนแปลงแนวทางไปตลอดกาลของ Apple
- Apple เล็งขยายฐานการผลิตออกจากจีนไปยังอินเดียและเวียดนาม หวังเลี่ยงปัญหาซัพพลายเชนสะดุด
“การสนับสนุนและรักษาทีมที่ดีที่สุดในโลกช่วยให้เราสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุด ล้ำสมัยที่สุดให้กับลูกค้าของเรา” ตัวแทนของ Apple กล่าวในแถลงการณ์ “ส่วนหนึ่งของปีนี้เป็นกระบวนการตรวจสอบประสิทธิภาพประจำปีของเรา เรากำลังเพิ่มงบประมาณสำหรับค่าตอบแทนโดยรวมของเรา”
นอกจากนี้ Apple จะเพิ่มค่าจ้างขั้นต้นสำหรับพนักงานขายปลีกในสหรัฐฯ เป็น 22 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง หรือราว 750 บาท เพิ่มขึ้นจาก 20 ดอลลาร์ ร้านค้าในบางภูมิภาคอาจมีการจ่ายเงินขั้นต่ำที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามค่าจ้างขั้นต่ำนี่ถือว่าเพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบกับปี 2018
อัตราเงินเฟ้อมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความคาดหวังในการจ่ายเงินเช่นกัน โดยดัชนีราคาผู้บริโภคในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8.3% ต่อปีในเดือนเมษายน ตามข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ
การประกาศนี้เพิ่มเงินเดือนนี้มาจากการที่ Apple เผชิญกับแรงกดดันจากสหภาพค้าปลีกทั่วประเทศที่เรียกร้องให้จ่ายค่าจ้างที่สูงขึ้น และพนักงานในรัฐแอตแลนตากับจอร์เจียจะเปิดโหวตในเดือนมิถุนายนว่าควรร่วมมือกับสหภาพแรงงานของสหรัฐฯ
หรือไม่
Bloomberg และ Vice รายงานว่า ผู้บริหารระดับสูงบอกพนักงานของ Apple ให้นึกถึงความเสี่ยงของการรวมกันเป็นสหภาพแรงงาน โดยอ้างถึงบันทึกที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ และข้อความนี้ได้ถูกส่งต่อไปยังพนักงานขายปลีก 58,000 คน
ในข้อความความยาว 6 นาที เดเดอร์ โอไบรอัน รองประธานอาวุโสฝ่ายค้าปลีกและบุคลากรของบริษัท กล่าวว่าสหภาพแรงงานจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง Apple กับพนักงานยุ่งยากขึ้น มีสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานที่ร้อนแรงสำหรับเทคโนโลยีจะชะลอตัวลงตามสภาวะตลาด โดยเมื่อเร็วๆนี้ Facebook, Snap และ Nvidia กล่าวว่าพวกเขาจะชะลอการจ้างพนักงานเพื่อควบคุมต้นทุนตามสภาวะตลาด
Apple ยังคงเป็นยักษ์ใหญ่ในด้านเงินสดที่แข็งแกร่ง โดยในปี 2021 มียอดขายเพิ่มขึ้นที่ 34% เป็น 2.97 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีอัตรากำไรเบื้องต้นอยู่ที่ 43%
อ้างอิง:
- https://www.businessinsider.com/apple-raising-base-pay-22-an-hour-as-workers-unionize-2022-5
- https://www.cnbc.com/2022/05/26/apple-says-it-will-raise-pay-for-corporate-and-retail-employees-in-tight-labor-market.html
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-05-26/apple-promises-to-boost-pay-for-us-workers-as-inflation-climbs
