Apple แจ้งรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ของปีงบประมาณการเงิน 2019 (เดือนกรกฎาคม-กันยายน) ของบริษัท พบมีรายได้รวมทั้งสิ้น 64,040 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.93 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนกำไรสุทธิของบริษัทอยู่ที่ 13,686 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 413,000 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วราว 3%
ปัจจุบันรายได้ส่วนใหญ่ของ Apple แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ (iPhone, iPad, Mac และอื่นๆ) ที่ 80% หรือ 51,529 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (YoY -1.5%) และรายได้จากบริการอีก 20% หรือ 12,511 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (YoY +18%) ซึ่งเป็นตัวเลขรายได้จากสินค้าในกลุ่มบริการที่สูงเป็นสถิติใหม่ของบริษัท
ขณะที่เมื่อนับเฉพาะสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจะพบว่า iPhone ยังคงทำรายได้มากที่สุดคิดเป็นสัดส่วน 65% ของรายได้ผลิตภัณฑ์ แต่ลดลงจากปีที่แล้ว 9% ตามมาด้วย Mac 14% (YoY -4.8%), สินค้าในกลุ่ม Wearables, Home และอุปกรณ์อื่นๆ 13% (YoY +54%) และ iPad 9% (YoY +17%)
เมื่อจำแนกรายได้ของบริษัทตามแต่ละภูมิภาคจะพบว่า Apple มีรายรับจากตลาดต่างประเทศมากถึงร้อยละ 55 ของรายได้ทั้งหมดในไตรมาสนี้ โดยแบ่งเป็นรายได้จากยุโรป 23%, จีน 17%, ญี่ปุ่น 8% และเอเชียแปซิฟิก 6% (ที่เหลือเป็นของสหรัฐฯ)
และจากสถานการณ์ความไม่มั่นคงของสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนที่นับวันก็ยิ่งจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้รายได้จากประเทศจีนในไตรมาสนี้ของบริษัทอยู่ที่ 11,134 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 2% โดยเมื่อนับรวมทั้งปีงบประมาณ 2019 รายได้ของ Apple จากจีนจะอยู่ที่ 260,174 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากปีที่แล้ว 5,421 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่รายได้ทั้งหมดในปีงบประมาณการเงิน 2019 อยู่ที่ 260,174 ล้านบาท ลดลงจากปีงบประมาณการเงิน 2018 ที่ 2% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 55,256 ล้านบาท
ทิม คุก ซีอีโอ Apple กล่าวว่า “เราสามารถจบปีงบการเงิน 2019 ได้ด้วยรายได้รายไตรมาส 4 ที่สูงที่สุดเท่าที่เราเคยทำได้ ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม ‘บริการ’, Wearables และ iPad
“ด้วยเสียงตอบรับที่ดีของ iPhone เจเนอเรชันใหม่ของพวกเรา (iPhone 11) รวมถึงหูฟังไร้สายตัดเสียงรบกวนรุ่นใหม่ AirPods Pro บริการใหม่ล่าสุด Apple TV+ ที่เตรียมจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ รวมถึงสินค้าและบริการอื่นๆ ที่อยู่ในไลน์อัปของเรา เรายังมองเห็นถึงทิศทางที่ดีของเราต่อจากนี้”
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- Apple