สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า มูลค่าตลาดของ Apple บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ชั้นนำของสหรัฐฯ ร่วงลงต่ำกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี หลังจากที่เพิ่งจะก้าวขึ้นเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันแห่งแรกที่มีมูลค่าตลาด 3 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2022
มูลค่าตลาดที่ร่วงลงตำ่กว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ราคาหุ้นในตลาดของ Apple ร่วงลงต่ำกว่า 3% ในการซื้อขายเมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา
หุ้นของ Apple ร่วงลง 3.74% ลงมาอยู่ที่ 130.20 ดอลลาร์ต่อหุ้น ปิดตลาดวันแรกของการซื้อขายของปี 2023 อย่างไม่สวยสักเท่าไรนัก โดยทำสถิติระดับต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ ทำให้บริษัทมีมูลค่า 1.99 ล้านล้านดอลลาร์ ในช่วงปิดตลาดเมื่อวานนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ข่าวร้ายอีกระลอก! ‘Apple’ ถูกหั่นเครดิตเซ่นยอดขายแผ่ว โอกาสเติบโตเริ่มติดขัด ฉุดหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ร่วงทั้งกระดาน
- ‘Apple’ อ่วม ถูกทางการญี่ปุ่นเรียกเก็บภาษีย้อนหลังกว่า 98 ล้านดอลลาร์
- เศรษฐกิจไม่ดีทำ iPhone 14 ไม่ปังอย่างที่คิด Apple สั่งโรงงาน ‘ลดกำลังการผลิตลง’ ทำหุ้นซัพพลายเออร์ร่วงถ้วนหน้า
รายงานระบุว่า หุ้นของ Apple ที่ร่วงลงเป็นผลจากการปรับลดเรตติ้งของบริษัทโดย BNP Paribas Exane ซึ่งให้เหตุผลว่าแนวโน้มการเติบโตของ Apple ไม่สดใส เพราะผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยและปัญหาการผลิตของบริษัทในโรงงานที่จีน
ทั้งนี้ บริษัท Apple มีมูลค่าตลาดพุ่งแตะ 2 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นครั้งแรกในเดือนสิงหาคม 2020 เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด ทำให้ยอดขายคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์สำหรับการทำงานระยะไกลและโรงเรียนเพิ่มขึ้น ก่อนที่บริษัทจะมีมูลค่าตลาดขยับขึ้นอีกในช่วงสั้นๆ มากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ ในระหว่างการซื้อขายในเดือนมกราคมปีที่แล้ว
มูลค่าที่ลดลงดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเวลาที่ทาง Apple ประสบปัญหากับการจัดส่ง iPhone 14 Pro ในช่วงเทศกาลวันหยุด เนื่องจากข้อจำกัดของโควิดในโรงงานหลักในจีน นอกจากนี้นักลงทุนยังค่อนข้างระมัดระวังต่อการลงทุนมากขึ้น จากการเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์ราคาพรีเมียมของ Apple
ด้านเว็บไซต์ Nikkei อ้างอิงรายงานล่าสุดจากนักวิเคราะห์ห่วงโซ่อุปทาน TrendForce ระบุว่า ยอดจัดส่ง iPhone ของ Apple ลดลง 22% ในไตรมาสเดือนธันวาคม โดยทาง Apple ได้แจ้งให้ซัพพลายเออร์ผลิตส่วนประกอบน้อยลงสำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึง AirPods, Apple Watch และแล็ปท็อป MacBook
ทั้งนี้ Apple ถือเป็นบริษัทใหญ่รายสุดท้ายที่เสียบัลลังก์มูลค่าตลาด 2 ล้านล้านดอลลาร์ โดยก่อนหน้านี้ Microsoft ทำรายได้ทะลุ 2 ล้านล้านดอลลาร์ ก่อนที่มูลค่าตลาดจะร่วงลงในปี 2022
ด้านภาพรวมของตลาดในวงกว้างลดลงในวันอังคารที่ 3 มกราคม โดยดัชนี S&P 500 ลดลงเกือบต่ำกว่า 1% ในระหว่างการซื้อขาย โดยตลอดทั้งปีที่ผ่านมา Apple ทำผลงานได้ต่ำกว่าดัชนี S&P 500 ซึ่งลดลงมากกว่า 18% โดยราคาหุ้นของ Apple ลดลงเกือบ 27% ในปี 2022
อ้างอิง: