Apple เปิดตัว MacBook Pro ใหม่ เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แก้แทบทุกปัญหาที่ผู้ใช้ MacBook เคยพบเจอ ซึ่ง MacBook Pro ใหม่นี้มีอะไรอัปเกรดขึ้นมาบ้าง? และแก้ปัญหาด้านไหนบ้าง? THE STANDARD WEALTH รวบรวมมาให้แล้ว
- เปลี่ยนมาใช้ชิป M1 ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดการใช้ชิปของ Intel ที่ใช้มาอย่างยาวนานทุกรุ่น โดยชิป M1 เปิดตัวด้วยกัน 2 เวอร์ชันคือ M1 Pro และ M1 Max เริ่มกันที่ M1 Pro เวอร์ชันนี้มี CPU มากถึง 10 คอร์ โดย 8 คอร์ใช้สำหรับการประมวณผลที่รวดเร็ว เน้นประสิทธิภาพ และอีก 2 คอร์เน้นประหยัดพลังงาน ซึ่ง M1 Pro แรงกว่า M1 แบบปกติถึง 70% และมี GPU สำหรับกราฟิกถึง 16 คอร์ แรงกว่า M1 แบบปกติถึง 2 เท่า ในส่วนของชิป M1 Max จะมี CPU เท่ากับ M1 Pro แต่มี GPU เพิ่มเป็น 32 คอร์ ซึ่งแรงกว่า M1 ปกติถึง 4 เท่า รวมถึงการออกแบบชิปตัวใหม่นี้ ถูกออกแบบมาให้ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ทำให้เครื่องร้อนเกินไป ไม่เสียพลังงานในการกำจัดความร้อนในตัวเครื่อง รวมถึงภายในตัวเครื่องยังถูกออกแบบให้ถ่ายเทความร้อนได้ดีอีกด้วย
- ขนาดหน้าจอมีให้เลือก 2 ขนาดคือ 14.2 นิ้ว และ 16.2 นิ้ว โดยหน้าจอมีขอบด้านข้างที่บางกว่าเดิม 24% และขอบด้านบนบางกว่าเดิม 60% โดยหน้าจอมีการแสดงผลแบบ ProMotion ซึ่งจะมี Refresh Rate ถึง 120Hz นอกจากนั้นยังมีรอยบากเพิ่มเข้ามาเหมือน iPhone ซึ่งเป็นพื้นที่ไว้สำหรับใส่กล้อง Full HD และ 1080 Progressive-Scan อีกด้วย ซึ่งรอยบากนี้อาจจะขัดใจสาวกบางกลุ่มอยู่ไม่น้อย
- เพิ่มช่องเสียบต่างๆ เข้ามาอย่างครบถ้วน ไม่ต้องเสียเงินซื้ออะแดปเตอร์เพิ่มเติม โดยมีทั้งช่อง HDMI และช่องเสียบ SD Card รวมถึงการกลับมาของ MagSafe ที่เหล่าสาวก MacBook ชื่นชอบเป็นอย่างมาก แต่ว่าถูกตัดออกไปในปี 2015 ซึ่งการชาร์จแบบนี้ จะเป็นประโยชน์เวลาเกิดเผลอเดินเตะสายไฟ MacBook จะไม่ร่วงลงไปกองกับพื้นอย่างที่หลายคนเคยประสบ โดยช่อง HDMI นี้จะทำให้เชื่อมต่อกับโทรทัศน์และหน้าจออื่นๆ ได้ง่ายขึ้น ส่วนช่องเสียบ SD Card จะช่วยให้เหล่าช่างภาพ ช่างวิดีโอ ทำงานข้างนอกได้อย่างสะดวกมากขึ้น
- เปลี่ยน Keyboard เป็น Magic Keyboard ที่มีการออกแบบระยะปุ่มให้พิมพ์ได้อย่างถนัด และตัดแถบหน้าจอ Touch Bar ออก เปลี่ยนเป็นปุ่มคำสั่งควบคุมต่างๆ แบบปกติแทน ซึ่งแถบ Touch Bar นี้สร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ใช้มืออาชีพ และเหล่าโปรแกรมเมอร์ ซึ่ง Keyboard ใหม่นี้มีปุ่ม Esc ขนาดใหญ่ ซึ่งจำเป็นต่อเหล่าโปรแกรมเมอร์เป็นอย่างมาก นอกจากนั้นไมโครโฟน และลำโพงก็อัปเกรดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
- แบตเตอรี่ของรุ่น 16 นิ้วสามารถดูวิดีโอได้นานต่อเนื่องถึง 21 ชั่วโมง และรุ่น 14 นิ้วดูได้นานถึง 17 ชั่วโมง โดยทั้ง 2 รุ่นสามารถรองรับการชาร์จเร็ว โดยชาร์จ 0-50% ใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น
- ราคาจำหน่ายในไทยนั้น เริ่มต้นที่ 73,900 บาท ในรุ่น MacBook Pro 14 นิ้ว ชิป M1 Pro 8 คอร์ และสามารถอัปเกรดชิปและความจุได้ โดยจะมีราคาสูงขึ้นไปอีกอย่าง MacBook Pro ขนาด 16 นิ้ว ในรุ่นสเปกแรงที่สุดจะมีราคาสูงถึง 215,900 บาท
จะเห็นว่า Apple รับฟังปัญหาต่างๆ จากผู้ใช้งาน และทำการแก้ไขมาในปีนี้ได้เป็นอย่างดี ในด้านภาพรวมของการเติบโตของยอดขาย Mac แม้ว่าอุปกรณ์สวมใส่ และ iPhone จะเติบโตขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ Mac ยังคงเป็นตัวสร้างรายได้ที่มั่นคงของ Apple โดยทำรายได้เกือบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 1 ล้านล้านบาท คิดเป็น 10% ของยอดขายทั้งหมดในปีงบประมาณที่แล้ว
โดย Mac ยังมีส่วนแบ่งการตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น โดยถือครองตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลทั่วโลกประมาณ 9% ในไตรมาสที่สาม และมีการจัดส่งเพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามข้อมูลจาก IDC นั่นทำให้ Apple กลายเป็นผู้ได้กำไรรายใหญ่เป็นอันดับสองในตลาดคอมพิวเตอร์ รองจาก Dell Technologies Inc.
ทิม คุก ประธานกรรมการบริหารของ Apple กล่าวว่า ไตรมาส 3 นี้ ถือเป็นไตรมาส 3 ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์เกือบ 40 ปีของ Mac เลย แม้ว่าจะเป็นช่วงก่อนการเปิดตัว MacBook Pro รุ่นใหม่นี้ก็ตาม ซึ่งยอดขาย Mac เติบโตเกือบ 33% ในไตรมาส 3 ปีนี้
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP