สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวานคงอยากให้นวัตกรรมนี้ออกมาโดยเร็วที่สุด เมื่อ Bloomberg รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า Apple กำลังซุ่มพัฒนา Apple Watch ให้สามารถวัดระดับน้ำตาลได้โดย ‘ไม่ต้องเจาะเลือด’
ความก้าวหน้าดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน และเสริมให้ Apple มุ่งหน้าสู่ธุรกิจสุขภาพได้มากขึ้น แถมยังจะเสริมให้ Apple Watch เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานหลายล้านคนทั่วโลก หากเจาะเฉพาะในสหรัฐอเมริกาพบว่าชาวอเมริกันประมาณ 1 ใน 10 คนเป็นโรคเบาหวาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- การมาของ Apple Watch Ultra อาจทำให้ Garmin ตกอยู่ในสภาพเดียวกับ Nokia ที่ย่ำแย่หลังการมาถึงของ iOS และ Android
- Apple Watch ช่วยชีวิตผู้หญิงคนหนึ่ง หลังแจ้งเตือนการค้นพบเนื้องอกหายากและร้ายแรงขณะนอนหลับ
- Apple Watch 7 ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันใหม่ ‘การวัดความดันโลหิต’ กำลังเผชิญการผลิตที่ล้าช้า เนื่องจากการออกแบบที่ซับซ้อนมากขึ้น
ปกติแล้วการวัดน้ำตาลในเลือดจะต้องใช้อุปกรณ์แแบบแปะที่ตัวเซ็นเซอร์จะสอดเข้าชั้นไขมันใต้ผิวหนัง และต้องเปลี่ยนทุกๆ 2 สัปดาห์ แต่ Apple กำลังใช้วิธีการที่แตกต่างออกไป โดยจะใช้เลเซอร์เพื่อฉายแสงความยาวคลื่นเฉพาะไปยังบริเวณใต้ผิวหนัง จากนั้นแสงจะสะท้อนกลับมาที่เซ็นเซอร์ในลักษณะที่ระบุถึงความเข้มข้นของกลูโคส ซึ่งจะชี้วัดถึงระดับน้ำตาลในเลือดได้
วิศวกรหลายร้อยคนกำลังทำงานในโครงการนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Exploratory Design Group หรือ XDG ของ Apple โดยโครงการนี้ถูกปิดเป็นความลับสุดยอด
Bloomberg รายงานด้วยว่า Apple ได้ทดสอบเทคโนโลยีดังกล่าวกับหลายร้อยคนในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ในการทดลองกับมนุษย์ได้มีการใช้ระบบนี้กับผู้ที่ไม่ทราบว่าตนเองเป็นเบาหวานหรือไม่ รวมถึงผู้ที่เป็นเบาหวาน และเบาหวานชนิดที่ 2
หนึ่งในเป้าหมายของเทคโนโลยีของ Apple คือการสร้างมาตรการป้องกันที่จะเตือนผู้คนหากพวกเขากำลังเป็นโรคเบาหวานก่อนวัยอันควร โดยหวังให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตนเอง ซึ่งขณะนี้ทีมกำกับดูแลของ Apple ได้พูดคุยล่วงหน้าเกี่ยวกับการขออนุมัติจากรัฐบาลสำหรับระบบนี้แล้ว
ที่ผ่านมา Apple ได้เปิดตัวฟีเจอร์เพื่อสุขภาพมากมาย ทั้งเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจในปี 2015 ก่อนขยับเป็นความสามารถในการวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจจากข้อมือในปี 2018 นอกจากนี้ยังสามารถตรวจจับอุณหภูมิของร่างกายสำหรับการติดตามสุขภาพของผู้หญิง และคำนวณระดับออกซิเจนในเลือด
อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อไร แม้จะเป็นข่าวลือมาหลายปีแล้วก็ตาม
อ้างอิง: