สำหรับเอพี (ไทยแลนด์) ธุรกิจคอนโดมิเนียมในช่วงปีที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สวนกระแสความท้าทายจากการฟื้นตัวของสถานการณ์ต่างๆ โดยรอบ ซึ่งภาพรวมตลาดคอนโดในวันนี้เชื่อว่าได้ผ่านพ้นจุดที่ต่ำสุดไปแล้ว และมีสัญญาณบวกที่ดีขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนได้จากอัตราการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ ยอดขายและยอดโอนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรม
โดย 10 เดือนที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียมสามารถสร้างยอดขายสุทธิ (Net Presale) ได้มากถึง 10,713 ล้านบาท เติบโตมากถึง 180% เมื่อเทียบกับยอดขายทั้งปีของปี 2563 ที่เผชิญวิกฤตการณ์ใหญ่ และเติบโตขึ้น 15.8% หากเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า
“สิ่งหนึ่งที่ส่งผลให้ยอดขายคอนโดเอพีเติบโตกลับเข้าสู่สภาวะปกติมากขึ้นเป็นลำดับนั้น นอกจากการปรับเปลี่ยนวิธีคิดในการพัฒนาโครงการอยู่เสมอแล้วนั้น การมี Brand Portfolio ที่ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ตลอดจนการสื่อสารจุดยืนของแบรนด์ที่ถือเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการพัฒนาตัวสินค้า” กมลทิพย์ บำรุงชาติอุดม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจคอนโดมิเนียม บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) กล่าว
ปัจจุบันคอนโดเอพีพัฒนาขึ้นผ่าน 4 แบรนด์สินค้า โดยแต่ละแบรนด์มีจุดยืนที่สะท้อนกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ได้แก่
- THE ADDRESS (ดิ แอดเดรส) เพรสทีจ-ลักซ์คอนโดมิเนียม ระดับราคา 250,000 ต่อตารางเมตร
- RHYTHM (ริธึ่ม) ลักชัวรีคอนโดมิเนียม ระดับราคา 160,000-220,000 ต่อตารางเมตร
- LIFE (ไลฟ์) ไฮคลาสคอนโดมิเนียม ระดับราคา 100,000-160,000 ต่อตารางเมตร
- ASPIRE (แอสปาย) คอนโดแมสเซกเมนต์ที่ดีที่สุด ระดับราคา 60,000-100,000 ต่อตารางเมตร
ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียมเตรียมเปิดตัว 2 โครงการใหม่ มูลค่า 7,300 ล้านบาท ได้แก่ ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ คอนโดมิเนียมสูง 29 ชั้น จำนวน 593 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,300 ล้านบาท
ตัว ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ ถือเป็น ASPIRE คอนโดในเวอร์ชันใหม่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้สอดรับกับดีมานด์และไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายในทำเลนี้โดยเฉพาะ โดยภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในย่านดินแดง ราชปรารภ เชื่อมต่ออนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและย่านวิภาวดีนั้น พบว่าไม่มีซัพพลายใหม่เปิดตัวมานานแล้วกว่า 5 ปี
โดยซัพพลายที่มีราคาขายเฉลี่ยในโหมด 115,000-155,000 บาทต่อตารางเมตร จำนวน 2 ใน 4 โครงการได้ปิดการขายร้อยเปอร์เซ็นต์ไปแล้ว ซึ่งนับเป็นอัตราการตอบรับที่ดี ส่วนซัพพลายที่คงเหลือขายอยู่ ณ ปัจจุบันประมาณ 100 ยูนิต ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดขายตั้งแต่ปี 2560 จึงถือเป็นโอกาสที่กลุ่มธุรกิจคอนโดจะเข้าไปทำตลาดในทำเลดังกล่าว
ตัวห้องมี 2 แบบ คือ SIMPLEX ขนาด 26.5-60 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1 Bedroom 2.79 ล้านบาท (ราคาเริ่ม 98,000 บาทต่อตารางเมตร) และห้องชุดเพดานสูงแบบ ALL NEW VERTIPLEX ขนาด 26-46 ตารางเมตร โดยเริ่มในชั้น 22-28 ราคา 3.9 ล้านบาท (ราคาเริ่ม 100,000 บาทต่อตารางเมตร)
อีกหนึ่งไฮไลต์คือการเปิดแฟลกชิปโครงการร่วมทุนใหม่ล่าสุด RHYTHM เจริญนคร ไอคอนิค บนที่ดินขนาด 4 ไร่ สูง 29 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 577 ยูนิต มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท ริมถนนเจริญนคร ตรงข้ามไอคอนสยาม เพียง 100 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีทอง ‘เจริญนคร’ พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซปต์ Bluechip Design Residence ราคา 159,000 บาทต่อตารางเมตร
ทางเอพี (ไทยแลนด์) ตั้งเป้ายอดขายคอนโด 2 โครงการใหม่ในสัดส่วน 25-30% ภายในสิ้นปีนี้ และคาดว่ายอดขายคอนโดจะทะลุ 13,000 ล้านบาทในปี 2566 เพิ่มขึ้น 13.6% จาก 11,444 ล้านบาทในปี 2565