เกิดอะไรขึ้น:
วานนี้ (7 พฤศจิกายน) บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (AP) รายงานกำไรสุทธิ 3Q66 จำนวน 1.69 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 19.6%YoY และ 9.8%QoQ) ตามคาด โดยได้รับการสนับสนุนจากรายได้จำนวน 1.0 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 12%YoY และ 8.5%QoQ) ซึ่งเป็นไปตามคาด โดย 89% เกิดจากโครงการแนวราบ และ 11% เกิดจากคอนโดของ AP โดยที่มีโครงการใหม่คือ Aspire ปิ่นเกล้า-อรุณอมรินทร์ ที่บริษัทเริ่มโอนใน 3Q66
อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยอยู่ที่ 35.5% เป็นไปตามคาด โดยลดลง QoQ จากระดับสูงผิดปกติใน 2Q66 แต่เพิ่มขึ้น YoY ส่วนแบ่งกำไรจาก JV อยู่ที่ 317 ล้านบาท เป็นไปตามคาด โดยได้รับการสนับสนุนจากการโอนกรรมสิทธิ์ใหม่ที่โครงการ The Address สยาม-ราชเทวี (มูลค่าโครงการ 8.6 พันล้านบาท ขายได้แล้ว 39% โอนแล้ว 15%) กำไรสุทธิ 9M66 อยู่ที่ 4.7 พันล้านบาท (ลดลง 0.1%YoY) คิดเป็น 75% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2566
ด้านยอด Presales ณ วันที่ 31 ตุลาคม อยู่ที่ 3.88 หมื่นล้านบาท (ลดลง 14.4%YoY) คิดเป็น 67% ของเป้ายอด Presales ที่บริษัทวางไว้ในปี 2566 ที่ 5.8 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 15%) โดย 72% เกิดจากโครงการแนวราบ (มูลค่าลดลง 22.2%) และ 28% เกิดจากคอนโด (มูลค่าเพิ่มขึ้น 15.8%)
InnovestX Research คาดว่า AP จะทำยอด Presales ในปี 2566 ได้ต่ำกว่าเป้า 10-15% โดยจะอยู่ที่ 5.0-5.2 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 0-4% จากปีก่อน) ในขณะที่ AP จะเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2566 มูลค่ารวม 7.53 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 18%YoY) ลดลงจากแผนเดิมที่ 7.7 หมื่นล้านบาท ดังนั้นใน 4Q66 AP จะเปิดตัวโครงการใหม่ 23 โครงการ (แนวราบ 21 โครงการ และคอนโด 2 โครงการ) มูลค่ารวม 3.57 หมื่นล้านบาท
กระทบอย่างไร:
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 ณ เวลา 12.30 น. ราคาหุ้น AP ปรับขึ้น 0.90%DoD สู่ระดับ 11.20 บาท ขณะที่ SET Index ปรับขึ้น 0.47%DoD สู่ระดับ 1,414.91 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2566:
ปัจจุบัน AP มี Backlog มูลค่า 3.25 หมื่นล้านบาท โดย 41% จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2566 และที่เหลือจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2567-2569 เมื่อจำแนกตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ พบว่า Backlog 51% เป็นโครงการแนวราบ 43% เป็นคอนโดร่วมทุน และ 6% เป็นคอนโดของ AP
สำหรับปี 2566 InnovestX Research ยังคงประมาณการรายได้ไว้ที่ 4.08 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 6%) โดยมี Secured Revenue แล้วที่ 96% และคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต 6.2% สู่ระดับที่ทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ 6.24 พันล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ 4Q66 คาดน่าจะปรับตัวดีขึ้น YoY แต่ลดลงเล็กน้อย QoQ โดยจะมีการโอน Backlog ที่โครงการ Aspire ปิ่นเกล้า-อรุณอมรินทร์ และ The Address สยาม-ราชเทวี อย่างต่อเนื่อง
กลยุทธ์การลงทุนยังคงคำแนะนำ Tactical Call สำหรับ AP ไว้ที่ Outperform ด้วยราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 15 บาทต่อหุ้น อ้างอิง P/E 7.4 เท่า (+0.25SD)
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม คือ การขึ้นอัตราดอกเบี้ย และแนวโน้มอัตราการปฏิเสธสินเชื่อในตลาดระดับล่าง / กลาง-ล่าง, การบริหารจัดการสินค้าคงเหลือจากการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวนมากในปี 2565 ประกอบกับการเปิดตัวโครงการใหม่หลายโครงการในปี 2566, การเลื่อนเปิดตัวโครงการใหม่, ฐานะกระแสเงินสด และต้นทุนการกู้ยืมที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น