‘AOT Official’ แฟนเพจเฟซบุ๊กของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. โพสต์ข้อความอ้างอิงการประชุมคณะกรรมการของ ทอท. ครั้งที่ 12/2561 เมื่อวันพุธที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งมี ประสงค์ พูนธเนศ ประธานบอร์ด ทอท. เป็นประธานการประชุม
โดยที่ประชุมมีมติต่อเรื่องความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำโครงการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิระยะที่ 3 โดยได้เสนอเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือสภาพัฒน์ พิจารณาก่อนที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่ออนุมัติ
ทอท. ได้เสนอสภาพัฒน์ให้เร่งรัดการดำเนินการพิจารณาโครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 และโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารทิศตะวันตกของอาคารผู้โดยสารไปก่อน เพื่อส่งต่อให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ส่วนโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ซึ่งสังคมให้ความสนใจนั้น ทอท. เสนอให้ชะลอออกไปก่อน เนื่องจากมีข้อสงสัยต่อโครงการดังกล่าวอาจจะไม่ตรงตามรายงานผลการศึกษาขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization) หรือ ICAO และไม่เป็นไปตามแผนแม่บทของท่าอากาศสุวรรณภูมิ
ขณะเดียวกันยังมีกรณีที่บริษัทเอกชนยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลางด้วย ซึ่งทาง ทอท. ได้หารือข้อกฎหมายกับสำนักงานคดีปกครอง สำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาข้อหารือ ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริงและความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ เพิ่มเติม รวมถึงผลการพิจารณาของ ICAO และสำนักงานอัยการสูงสุด ก่อนที่จะดำเนินการต่อไป
สำนักข่าว THE STANDARD สอบถามกับ ดวงฤทธิ์ บุนนาค กรรมการผู้จัดการของสำนักงานออกแบบ Duangrit Bunnag Architect Limited (DBALP) ผู้ชนะประมูลงานออกแบบอาคารสนามบินหลังที่ 2 ซึ่งอยู่ในพื้นที่ข่าวอย่างต่อเนื่องจากกรณีดังกล่าว โดยระบุว่าไม่ได้กังวลใจใดๆ จากการสั่งชะลอการพิจารณาโครงการของ ทอท. โดยเชื่อว่า ทอท. ต้องการความเห็นและข้อมูลที่ครบถ้วนและครอบคลุมทั้งจากสำนักอัยการสูงสุด และ ICAO เพื่อให้การดำเนินการเป็นที่ยอมรับ โปร่งใส เนื่องจากผ่านความเห็นจากศาลและองค์กรระดับโลก
แม้ขณะนี้จะยังไม่มีการลงนามหรือข้อผูกมัดทางกฎหมายใดๆ กับทาง ทอท. แต่ดวงฤทธิ์ยืนยันที่จะยืนราคาเดิมตามที่ได้เสนอไป แม้กระบวนการพิจารณาอาจจะยืดเยื้อออกไปเกินกว่าระยะเวลาที่ระบุในเอกสารเสนอราคา (เดือนธันวาคม) ก็ตาม สำหรับสิ่งที่ดำเนินการไปแล้วคือ การจัดทำรายงานขั้นต้น (Inception Report) ซึ่งเท่ากับ 10% ของทั้งแผนงานเท่านั้น และเชื่อว่าจะล่าช้าออกไปไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น ก่อนที่ DBALP จะได้เดินหน้าทำโครงการนี้ต่อไป
“ผมไม่มีอะไรต้องรีบ นี่เป็นเรื่องที่ดีนะครับ ดีที่เกิดข้อสงสัยในสังคมและอยากจะตรวจสอบ ผู้ที่เกี่ยวข้องจึงต้องทำให้มันชัดเจน โปร่งใส ผมไม่คิดว่าเป็นอุปสรรคอะไรเลยครับ เชื่อว่ากระบวนการจะใช้เวลาไม่กี่อาทิตย์เท่านั้น ผมเองก็คุยกับทาง ทอท. อยู่ตลอด คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร ”
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
