วันนี้ (12 พฤศจิกายน) เวลา 13.40 น. อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ เดินทางไปที่วัดบันไดช้าง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ดีใจที่ได้เจอทุกคน ถ้าตรงนี้เป็นแม่น้ำลำคลองหนองบึง แล้วได้เห็นพ่อแม่พี่น้องพายเรือมาเจอในวันนี้คงดี แต่ที่หัวเราะไม่ออก เพราะตรงนี้ไม่ใช่แม่น้ำ แต่เป็นถนน เรือกสวนไร่นา บ้านเรือน ซึ่งวันนี้โดนน้ำท่วมเยอะมาก ตนต้องไปวางแผนว่าทำอย่างไร ที่จะไม่ให้น้ำเข้ามาหนักกว่านี้ ช่วงเวลาที่ยังอยู่อย่างน้อยจะช่วยในระยะสั้นให้มากที่สุดก่อน หลังจากนี้จะสั่งรัฐมนตรีภราดร รัฐมนตรีสุรศักดิ์ เร่งหาทางช่วยเหลือ พร้อมย้ำว่า จะสั่งการจ่ายเป็นเดือนๆให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่พยายามทำตั้งแต่สมัยอยู่กระทรวงมหาดไทย คือพยายามเสนอวิธีการจัดการน้ำท่วมไม่ให้เดือดร้อนแบบนี้กันทุกๆปีและจะเจียดเงินไปทำทางน้ำเพื่อหาทางบริหารจัดการน้ำให้พ่อแม่พี่น้องมากที่สุดในอนาคต ทั้งนี้ ปีหน้าพ่อแม่พี่น้องก็ไปเลือกตั้งแล้ว คงอยู่ได้อีกไม่เกิน 2 เดือน ซึ่งจะช่วยเหลือเยียวยาไปพลางก่อน
สำหรับบ้านเรือนที่น้ำท่วม 3-4 เดือน จะให้ภราดรไปดูย้อนหลังให้ตั้งแต่วันน้ำท่วม วันนี้ต้องกราบขออภัยจริงๆ ที่ทำให้เกิดความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ยืนยันว่าจะไม่ทำให้เจตนารมณ์ของพ่อแม่พี่น้องสูญเปล่า มีเท่าไหร่ก็ต้องเอามาทำให้เต็มที่ พร้อมกับจัดการเร่งระบายน้ำให้
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ตอนอยู่บนเฮลิคอปเตอร์มองลงมาเห็นพื้นที่ได้ชัดเจน เห็นว่าฝั่งตะวันออกยังมีพื้นที่ ก็จะสั่งการให้เร่งระบายน้ำที่น้ำออกไป เพื่อให้น้ำฝั่งตะวันตกได้ระบายออกไป ส่วน ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็สนิทกันอยู่แล้วก็จะเร่งรัดให้เสนอโครงการระบายน้ำทางอ่าวไทย เพื่อเป็นตัวช่วยระบายน้ำเจ้าพระยาออก จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนแบบนี้ พร้อมกับจะเร่งโครงการขอกรมชลประทานหลายโครงการให้แล้วเสร็จ
“ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลต้องกราบขออภัยพ่อแม่พี่น้อง ที่ทำให้ต้องประสบความลำบากยากเย็น ปกติปลายเดือนตุลาคมน้ำจะไปหมดแล้ว ปีนี้ฝนก็ไม่ได้มากขึ้น แต่คงต้องแก้ปัญหาเรื่องการตัดสินใจในการระบายน้ำออกไปตามช่องทางต่างๆ ซึ่งต้องไปแก้ไขในส่วนนี้ เพื่อไม่ให้มีความเดือดร้อนอย่างปีนี้อีก เรื่องนี้ขอให้เป็นธุระของพวกผม” นายกรัฐมนตรี กล่าว
จากนั้น ตัวแทนชาวบ้านได้เสนอแนะนายกรัฐมนตรี ขอให้ชลประทานระบายน้ำเพิ่มเติม และขอให้บริหารจัดการน้ำให้เข้าสู่ภาวะปกติเพื่อใช้ชีวิตตามปกติได้ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รับปากจะทำให้ และจะเพิ่มให้ด้วย คือให้ภราดร และสุรศักดิ์ เร่งให้ความช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด ให้เสร็จภายในวันอังคารนี้
จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางที่ศาลาวัดท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมทั้งฟังบรรยายสถานการณ์น้ำ ก่อนจะเดินไปพูดคุยกับชาวบ้าน ระหว่างทางได้ทักทายอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน พร้อมกับยกมือถือขึ้นมาร่วมถ่ายภาพด้วย
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้กล่าวทักทายพ่อแม่พี่น้องชาวท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันนี้ตนเองถือว่ามาดูสถานการณ์น้ำท่วมในเขตจังหวัดภาคกลาง เริ่มจากอ่างทองและที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ ก่อนอื่นขอแสดงความชื่นชมจากใจจริงว่าพี่น้องยังมีรอยยิ้มให้กับตนเองอยู่ และการต้อนรับให้โอกาสตนเองได้มาทำงานรับใช้พี่น้อง ทุกท่านที่อยู่ระหว่างการประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งในปีนี้ทอดยาวนานกว่าทุกปี
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า พวกเราเข้าใจถึงหัวใจของความลำบากของพ่อแม่พี่น้อง และขอให้ความมั่นใจกับพ่อแม่พี่น้องว่า พ่อแม่พี่น้องที่เผชิญอยู่นั้น ทุกคนในคณะรัฐมนตรีของตนเองได้รับทราบถึงปัญหานี้เป็นอย่างดี และได้มอบหมายให้รัฐมนตรีแต่ละท่านดูแลปัญหาน้ำท่วมในแต่ละเขตพื้นที่ ในแต่ละจังหวัด และให้อำนาจในการตัดสินใจในการแก้ไขสถานการณ์ เพื่อให้ความเดือดร้อนของพ่อแม่พี่น้องทั้งหลายหมดสิ้นไปให้เร็วที่สุด
อนุทินยอมรับว่า การบริหารจัดการเรื่องน้ำ จุดที่เราต้องการแก้ไข ตนเองจะนำไปเร่งหาวิธีและเร่งอนุมัติ เพื่อให้การระบายน้ำมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดความเดือดร้อนกับพ่อแม่พี่น้อง เรายังสามารถที่จะสู้กับภัยธรรมชาติได้ ตนจะทำอย่างสุดความสามารถให้ความเดือดร้อนของพ่อแม่พี่น้องลดน้อยลง และขอชื่นชมพี่น้องที่ยอมสละพื้นที่ไร่นา สวนไร่นา ให้เป็นพื้นที่รับน้ำไม่ให้กระจายเข้าพื้นที่เศรษฐกิจที่มีการจ้างงาน ที่ทำรายได้ให้กับประเทศ จึงขอขอบคุณในความเสียสละ
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ทุกคนเครียด ทุกคนมีความเจ็บปวด พวกเราทุกคนที่อยู่ตรงนี้มีความเจ็บปวดเหมือนกัน มาพบกับพ่อแม่พี่น้องทางกายภาพ ความเป็นอยู่แย่กว่าตนอย่างแน่นอน แต่ทุกคนยังมีรอยยิ้มให้ ปรบมือให้กำลังใจ สิ่งนี้ทำให้มั่นใจว่าตนเองดีใจที่เห็นพี่น้องยิ้มได้ ปรบมือ แต่เสียใจที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ และรู้สึกเจ็บปวดหลายเท่า อีกทั้งอายในขณะที่เรามาให้กำลังใจพ่อแม่ที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้ ยังมาให้กำลังใจนายกฯ “สู้ๆ” อีก
นายกรัฐมนตรียืนยันว่า จะเร่งจัดการให้มีการอนุมัติระบายน้ำไปยังแม่น้ำป่าสักและอ่าวไทยให้เร็วที่สุด พร้อมให้หน่วยงานต่างๆ เร่งทำโครงการป้องกันน้ำที่จะมาท่วมอย่างถาวร และวันนี้จะสั่งให้ชลประทานทางทิศตะวันออกเร่งระบายน้ำให้มากที่สุด คาดว่าปริมาณน้ำจะลดน้อยลงไปในอีกหนึ่งถึงสองสัปดาห์ พร้อมทั้งกล่าวขอขมาพี่น้องพ่อแม่พี่น้องที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ จากนี้จะดูแลให้ดีที่สุดเท่าที่รัฐบาลจะทำได้
นอกจากนี้ รัฐบาลของพวกเรามีความรับผิดชอบไม่พ้น ทั้งนี้ ตนเองจะได้สั่งการให้ภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลน้ำท่วม และสำนักจัดการน้ำ รวมถึงสำนักงบประมาณ ให้ทำงานร่วมกันกับรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายในเขตจังหวัดอ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และพื้นที่ภาคกลาง ร่วมกับ สุรศักดิ์ พันธุ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ลูกชายของสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติม บ้านเรือนที่จมอยู่ในน้ำนานเป็นเดือน และเร่งอนุมัติงบประมาณให้ครอบคลุมทุกเดือน เพื่อให้พี่น้องได้รับเงินเยียวยาโดยเร็วที่สุด ภายในสัปดาห์หน้า หรือช้าสุดไม่เกินสองสัปดาห์
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังเชิญชวนประชาชนให้ลงทะเบียนรับสิทธิ์โครงการคนละครึ่งพลัส รวมถึงโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยขอให้ใช้สิทธิ์ให้เต็มที่ เพราะทุกบาททุกสตางค์ที่พี่น้องใช้จะหมุนเวียนกลับไปให้พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของได้มีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีเฟส 2 ต่อไป สำหรับใครที่ยังไม่ได้รับจะได้รับทั้งสิ้น 4,000 บาท
นายกรัฐมนตรียังกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า วันนี้ตนเองเดินทางมาที่นี่ด้วยเฮลิคอปเตอร์ ได้เห็นถึงพื้นที่ที่ยังสามารถรับน้ำได้อยู่ จึงได้สั่งการให้เร่งระบายน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน การเดินทางมาในวันนี้เพื่อให้เห็นสถานการณ์น้ำท่วมและระดับน้ำที่กักเก็บไว้ การได้เห็นหน้างานจะทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น ขณะนี้ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีไม่กลัวใครทั้งนั้น มีระยะเวลา 2 เดือน ในปีหน้าจะมีการเลือกตั้ง ขอเชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิ์ ถ้าเราทำงานไม่ดี ไม่ต้องเลือกกลับมา แต่ถ้าทำดีก็ขอโอกาส โอกาสกลับมาครบทีม












