วันนี้ (18 มิถุนายน) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยขีดเส้นใต้ 48 ชั่วโมงให้คืนเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่า ไม่มี อย่าไปพูดขีดเส้น ใครจะมาขีดเส้นได้ เมื่อวาน นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้มาหารือกันและบอกว่าพรรคเพื่อไทยอยากจะบริหารกระทรวงมหาดไทยเอง ซึ่งตนได้ปฏิเสธไปแล้วเพราะมันผิดข้อตกลง แต่ นพ.พรหมมินทร์บอกว่าเป็นความต้องการของพรรคเพื่อไทย โดยใช้คำว่าไพ่ใบสุดท้าย เมื่อเริ่มต้นมาเช่นนี้ไม่ต้องรอ 2-3 วันตอบได้เลย และตนได้ตอบไปแล้ว
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า หลังจากที่ทราบคำตอบแล้ว นพ.พรหมมินทร์ ได้แจ้งทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บิดาของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีทันที อนุทินกล่าวว่า ตนเองไม่ทราบ แต่อาจจะเป็นเช่นนั้น เพราะท่านมาหาถึงกระทรวงมหาดไทย คงได้รับการร้องขอให้มาหาตนที่กระทรวง
เมื่อถามต่อว่า จากสัญญาณที่ส่งมา หากพรรคภูมิใจไทยไม่ยอมจะเดินหน้าอย่างไรกันต่อ อนุทินกล่าวว่า เราไม่ได้มีเงื่อนไขอื่น มันไม่ใช่เรื่องการต่อรอง จะเอาอย่างนั้นได้ไหม อย่างนี้ได้ไหม แต่มันเป็นข้อตกลงในการสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งเป็นเอกภาพมาโดยตลอด คงตอบได้แค่นี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ สส. พรรคเพื่อไทยอ้างว่ากระทรวงมหาดไทยไม่ตอบสนองนโยบายรัฐบาลนั้น อนุทินกล่าวว่า ไม่จริง สุดท้ายตนก็ตอบได้หมด และเมื่อตอบได้หมดสุดท้ายเขาก็บอกว่าพูดกันตรงๆ เลยอยากได้กระทรวงมหาดไทยกลับคืนไป ผมก็บอกพูดกันตรงๆ ให้ไม่ได้”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเหมือนพรรคภูมิใจไทยเตรียมจะแถลงพร้อมจะเป็นฝ่ายค้านใช่หรือไม่ อนุทินยืนยันว่าไม่มี ตนได้รับอำนาจจากกรรมการบริหารตัดสินใจในเรื่องนี้ และตนได้แจ้งการตัดสินใจไปยังเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแล้วเมื่อวาน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าเคยคิดหรือไม่ว่าจะเดินมาถึงจุดนี้กับรัฐบาลเพื่อไทย อนุทิน กล่าวว่า ไม่เคยคิดเพราะคิดว่าทุกคนจะรักษาข้อตกลง แต่ไม่เป็นไร ถ้าข้อตกลงรักษากันไม่ได้ เราก็ต่างคนต่างไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การที่เมื่อวานเจอเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้เจอตัวนายกรัฐมนตรีถือเป็นการเข้าหน้ากันไม่ติดหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาคุยกับตนแล้วจะสบายใจมากนัก และทุกคนก็ทราบดีว่ามันมีการเบรกข้อตกลง ซึ่งถ้าถามว่ามันดีหรือไม่ก็คงไม่ดี เพราะหลังจากนี้ก็คงต้องมานั่งเขียนเงื่อนไข เขียนสัญญา ซึ่งก็ไม่ใช่เพราะข้อตกลงแบบนี้ต้องมีความหมาย มีความศักดิ์สิทธิ์มากกว่าข้อตกลงที่เป็นข้อเขียนด้วยซ้ำ เพราะเป็นความเชื่อมั่นเชื่อใจซึ่งกันและกัน และที่ผ่านมาไม่มีอะไรที่พรรคภูมิใจไทยไม่ทำตามข้อตกลงแม้แต่อย่างเดียว
เมื่อผู้สื่อข่าวถาม ว่าหากเป็นฝ่ายค้านมองว่าอายุรัฐบาลจะสั้นหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า หากเป็นฝ่ายค้านก็คงทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเล่นเกมอะไร ต้องทำตามบทบาท เหมือนกับตอนที่เป็นฝ่ายบริหารก็บริหารอย่างเต็มที่ ซึ่งตนก็มั่นใจว่าได้ทำทุกอย่างอย่างถูกต้องและเหมาะสม และการบริหารกระทรวงมหาดไทยของตนก็เป็นปึกแผ่น จึงมองว่าอาจจะทำให้พรรคการเมืองอื่นกังวล
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเอกภาพของเสียงพรรคภูมิใจไทย 77 เสียง จะไปด้วยกัน ใช่หรือไม่ ในขณะที่พรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าจะมีเสียงมาเติมฝั่งรัฐบาล อนุทิน กล่าวว่าเชื่อมั่นในตัวนายกรัฐมนตรี ทราบดีว่าอะไรเป็นอะไรในการจัดตั้งในการจัดตั้งรัฐบาล ที่มีองค์ประกอบที่มาจากพรรคการเมือง มาจากการเลือกตั้งของประชาชนจริงๆ ไม่ใช่เอาสส.ของพรรคอื่นมาประกอบ ตนเชื่อมั่นว่าไม่มีนายกรัฐมนตรีคนไหนที่อยากมีโครงสร้างรัฐบาลที่อยู่ได้เพราะเอางูเห่ามาค้ำยัน ซึ่งตนได้ข่าวมาว่ามีคนพูดว่าไปก่อนแล้วค่อยเอางูเห่ามา แต่ตนเชื่อว่าไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสม เพราะรัฐบาลควรมีองค์ประกอบที่เป็นนักการเมืองที่เริ่มต้นด้วยกันมาตั้งแต่แรก ซึ่งที่ผ่านมาเราสนับสนุนมาโดยตลอด
“การที่นายกรัฐมนตรีส่ง นพ.พรหมมินทร์ มาพูดคุยขอกระทรวงมหาดไทยคืนไปแสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่านายกรัฐมนตรีคงไม่มีความสบายใจนักที่จะมาพูดคุยความสัมพันธ์เพราะความสัมพันธ์ของเรามันดีมาก แต่ก็ไม่เป็นไร ความสัมพันธ์ในการเคารพนับถือกันก็ยังเหมือนเดิม แต่ก็ไปทำตามหน้าที่ของแต่ละคน ท่านก็บริหารไป ผมเป็นฝ่ายค้านก็ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบ รักษาประโยชน์ในบริบทที่ฝ่ายตรวจสอบพึงจะกระทำ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าในใจลึกๆ คิดไว้หรือไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะกล้าตัดพรรคภูมิใจไทย อนุทิน ย้อนว่า ถ้าไม่คิดจะออกมาพูดแบบนี้หรือ ถ้าไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ก็คงรับข้อเสนอไปแล้ว รับกระทรวงสาธารณสุขกับสำนักนายกรัฐมนตรีไปแล้ว มันเป็นคำตอบที่ตนไม่ต้องคิดมาก และที่บอกว่าจะให้เวลา 48 ชั่วโมง ในความจริงแล้วไม่ได้บอก แต่ท่านบอกว่าให้ไปคิด 2-3 วัน ไม่มีการขีดเส้นตาย แต่ไม่รู้ว่าสื่อออกไปได้อย่างไร เพราะท่านบอกว่าไม่ต้องรีบตอบ และยังบอกด้วยว่าอยากให้อยู่ด้วยกัน แต่ถ้าอยู่กันด้วยเงื่อนไขนี้ ก็คงอยู่ด้วยกันไม่ได้
เมื่อถามย้ำว่าตอนนี้แยกทางกันแล้วหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ถ้าหากเป็นไปตามนี้ ก็ต้องเป็นเช่นนั้นแหละ
ส่วนช่วงบ่ายวันนี้ที่จะมีประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล อนุทินเก่าย้ำว่าตนยังเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอยู่ ก็ยังต้องทำตามหน้าที่จนกว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี