วันนี้ (8 มิถุนายน) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ปักเป้า พร้อมปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมการปกครอง ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
จุดแรกไปที่ศูนย์พัฒนาเขตพื้นที่ชายแดน บ้านทุ่งสมเด็จ ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ทันทีที่มาถึง อนุทินได้รับฟังรายงานจากกองอาสารักษาดินแดน ก่อนจะเข้าไปสวมกอด ให้กำลังใจ และเดินทักทาย ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้ทหาร, ชรบ., อส. และหน่วยงานฝ่ายปกครอง ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่
จากนั้นอนุทินกล่าวกับพี่น้องประชาชนว่า วันนี้ถือว่าเรื่องการเมืองเป็นเรื่องสุดท้าย เรื่องทุกข์เรื่องสุขของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด วันนี้แม้กระทั่งการเมืองก็ต้องผนึกกำลังกัน ป้องกันบ้านเมือง ป้องกันประเทศไทย ป้องกันพี่น้องประชาชน ให้ปลอดภัย เดี๋ยวทุกอย่างเรียบร้อยค่อยไปฟัดกันใหม่ วันนี้เดี๋ยวขอกอดรัดฟัดเหวี่ยงด้วยความรักกันก่อน
อนุทินกล่าวว่า วันนี้ชื่นใจมาก ทุกคนยังมีจิตใจที่เข้มแข็ง มีกำลังใจที่ดี มีความมั่นคงเชื่อมั่นว่าพี่น้องทหารของเราจะปกป้องดูแลอธิปไตยของประเทศของเราได้อย่างเต็มที่แน่นอน ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และรวมกำลังใจส่งไปยังพี่น้องทหารที่คอยตรึงกำลังอยู่ตามแนวชายแดน รับรองว่าจะไม่ให้ใครรุกรานเข้ามา อย่าว่าแต่ตารางเมตรเดียว หรือนิ้วเดียว มิลลิเมตรเดียว ก็เข้ามาไม่ได้
อนุทินกล่าวด้วยว่า กระทรวงมหาดไทย โดยคำสั่งของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร โดยความเห็นชอบของ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะกำกับดูแลหน่วยงานความมั่นคง ซึ่งเมื่อสักครู่โทรศัพท์เข้ามาหาตนเองว่า ขอบคุณมากที่มาที่นี่ และขอให้นำความห่วงใยของนายกรัฐมนตรีมามอบให้กับพี่น้องชาวอุบลราชธานีทุกคนว่า มีความห่วงใย และสั่งการให้ตนเองมาพบปะกับพี่น้อง และวันนี้เต็มที่ทั้งใจ และหน้าที่ภารกิจที่ต้องทำให้พ่อแม่พี่น้องมีขวัญกำลังใจที่ดี
ส่วนเรื่องการสร้างความมั่นใจให้กับพ่อแม่พี่น้อง ขอให้มีความมั่นใจว่าจะมอบอำนาจเต็มให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในการดูแล ทั้งเรื่องความปลอดภัย คุณภาพชีวิต หากเกิดความจำเป็นที่จะต้องออกมายังพักพิงชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยในชีวิต ก็จะไม่มีความรู้สึกแตกต่างจากการใช้ชีวิตประจำวันอยู่ที่บ้าน หวังว่าคงไม่ต้องถึงจุดนั้น แต่หากจำเป็นต้องขอความร่วมมือพี่น้อง จะให้ความยืนยันว่าทีมงาน อส. และ ชรบ. ที่เข้มแข็งของกระทรวงมหาดไทย จะดูแลบ้านเรือนเคหสถานของพ่อแม่พี่น้องทุกคนเหมือนบ้านของเราเอง ไม่ต้องกังวล ขอให้ปลอดภัยไว้ก่อน และลูกหลานของพวกเราต้องปลอดภัยทุกคน ซึ่งสำคัญยิ่งกว่าทรัพย์สินใดๆ
สำหรับข้อวิพากษ์วิจารณ์ความสัมพันธ์ของตระกูลชินวัตรกับผู้นำกัมพูชา อนุทินมั่นใจว่า ไม่มีผู้นำประเทศคนไหนที่จะเห็นความสัมพันธ์ส่วนตัวมากไปกว่าชาติบ้านเมือง มั่นใจแพทองธารจะไม่เอาประโยชน์ของประเทศไทยไปแลกกับความสัมพันธ์กับใครก็ตาม ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง คนอย่างระดับนายกรัฐมนตรี แม้แต่ตนเองหากนับญาติรับพี่รับน้อง มีญาติคนกัมพูชาเยอะแยะไปหมด แต่ว่าเมื่อถึงเวลาแบบนี้ประเทศของเราประชาชนคนไทยมีความสำคัญกว่า แบบไม่ต้องเทียบ
ส่วนที่ข้อวิจารณ์ยังลามไปถึงความสัมพันธ์ของบิดานายกรัฐมนตรี อนุทินระบุว่า พ่อของนายกรัฐมนตรี ท่านก็เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ก็เคยพิสูจน์ให้เห็นมาแล้วว่า เมื่อมีข้อพิพาท ท่านก็ส่งยุทโธปกรณ์เครื่องบิน กดดันประเทศที่มีข้อพิพาท ท่านก็พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วว่าเมื่อถึงเวลาความสัมพันธ์ส่วนตัวไม่มีทางเหนือกว่าอธิปไตยของชาติบ้านเมือง คนที่มาถึงระดับนี้แล้ว ขอให้เลิกวิตกกังวลว่าจะเอาประเทศไทยไปแลกมิตรภาพ ไม่มีหรอก
ส่วนความเชื่อมโยงประเด็นไปถึงวันที่ 13 มิถุนายนนี้ เรื่องนี้ไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ เพราะนอกเหนืออำนาจหน้าที่ แต่มั่นใจ เพราะคนทุกคนมีเกียรติภูมิ โดยเฉพาะคนที่เป็นผู้นำของชาติบ้านเมือง วันนี้ต้องกราบเรียนจริงๆ ว่า อย่าไปพูด ด้วยห้วงเวลาก็ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ไขว้เขวได้ แต่ยืนยันว่า ทั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ข้าราชการระดับสูง แม้กระทั่งคนไทยโดยทั่วไป ไม่มีทางที่จะเห็นประโยชน์ของคนอื่นเหนือกว่าประโยชน์ของประเทศไทย สิ่งนี้ให้ความมั่นใจอย่างยิ่ง