วันนี้ (17 กุมภาพันธ์) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบที่ดินในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งพบว่ามีพื้นที่ขยายออกจากนิคมสร้างตนเองทับซ้อนที่ดิน ส.ป.ก. แล้วยังมีการระบุว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีสนามกอล์ฟของครอบครัวอนุทินรวมอยู่ด้วยนั้นว่า เป็นเรื่องที่เข้าสู่กระบวนการแล้ว หน่วยงานรัฐทุกฝ่ายบอกมาแล้วว่าประชาชนทุกคนที่ได้ที่ดินมาในพื้นที่บริเวณนั้นถือโฉนดที่ดิน ได้มาด้วยความสุจริต
ส่วนที่มาของโฉนดจะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องของหน่วยงานราชการ ทั้งกรมที่ดิน, ส.ป.ก. และนิคมสร้างตนเอง ในส่วนของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ต้องไปพิสูจน์ทราบ ดังนั้นถ้าอยู่ในกระบวนการของระบบราชการแล้ว ตนก็ไม่สามารถที่จะให้ความเห็นอะไรได้ ซึ่งเมื่อผลออกมาก็ไม่มีใครขัดต่อกฎหมายได้
ส่วนกรณีที่รายงานข่าวดังกล่าวพาดหัวถึงการฟอกขาวมรดกบาป น.ค.3 ให้เป็นโฉนดให้กับนายทุนนั้น อนุทินมองว่า เขาอาจเรียนประวัติศาสตร์ เพราะส่วนใหญ่ที่ตนทราบจากอธิบดีกรมที่ดิน เรื่องการเปลี่ยนที่ดินจากนิคมต่างๆ หรือที่ ส.ป.ก. เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น 50-60 ปีมาแล้ว และคนที่ถือครองปัจจุบันนี้ก็ซื้อผ่านการโอนโฉนด มีพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ตามหน้าโฉนดทุกอย่าง ฉะนั้นการซื้อขายเหล่านั้นเป็นการซื้อขายโดยสุจริต กรมที่ดินรับโอนรับค่าธรรมเนียม ผู้ขายยินดีขาย ผู้ซื้อยินดีซื้อ ทุกอย่างจบในเรื่องของการซื้อขายเปลี่ยนมือ ถือเป็นเรื่องสุจริต แต่ต้องไปดูว่าออกโฉนดมาได้อย่างไร ทำไมถึงไม่มีการตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนออกโฉนด และเหตุใดจึงปล่อยให้มีการเปลี่ยนมือหรือซื้อขาย รับค่าธรรมเนียมมามากมายไปหมด
เมื่อถามว่า ประเด็นนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง จะสะดวกใจทำงานร่วมกับพรรคกล้าธรรมในรัฐบาลหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า การทำงานรับใช้บ้านเมืองต้องไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวข้อง
ส่วนใครจะทำอะไร เตะเจาะยาง หรือทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง คนที่กล่าวหามาก็มีสิทธิ์กล่าวหา เพราะเขาบอกว่าทำเพื่อประชาชน ส่วนคนที่ถูกกล่าวหาก็มีหน้าที่พิสูจน์ทราบว่าถูกต้องอย่างไร ซึ่งถ้าถูกต้อง คนที่กล่าวหาก็ต้องรับความเสี่ยงในการถูกฟ้องร้อง พร้อมย้ำว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงาน เป็นเรื่องที่เล็กมาก ไม่มีสาระสำคัญอะไร การทำงานในความเป็นรัฐบาล เราต้องมองผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นหลัก เรื่องส่วนตัวก็อย่างที่บอก ก็ลงบัญชีกันไป
อนุทินเปิดเผยด้วยว่า ได้เจอ ธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็เข้ามาทักทาย ยกมือไหว้อย่างสุภาพนอบน้อมและบอกว่า สิ่งไหนที่ล่วงเกินไปต้องขออภัยด้วย เขาก็ทำตามหน้าที่ ซึ่งตนได้บอกว่า เต็มที่เลย ถ้ามีอะไรที่ไม่ถูกต้องก็ดำเนินการไป แล้วถ้ามีอะไรถูกต้องก็ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย ทั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องเคลียร์กับพรรคกล้าธรรม การเมืองก็อย่างนี้ ถ้าแค่นี้ทนไม่ได้ก็เล่นการเมืองไม่ได้ เป็นเรื่องปกติของการเมือง ของคนที่มีฐานเสียงแข็งแรงอย่างที่ตนเคยบอก ขณะเดียวกันอนุทินปฏิเสธการตอบว่าด่าใครว่าหน้าตัวเมีย