วันนี้ (2 สิงหาคม) ที่พรรคภูมิใจไทย อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงกรณีการร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยว่า ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับแกนนำพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ส่วนชื่อของ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ ส.ว. ตั้งข้อสังเกตในประเด็นการแก้ไขมาตรา 112 อนุทินมองว่า เท่าที่ติดตามข่าวมานั้น เศรษฐาก็ให้สัมภาษณ์ตลอดว่าพร้อมชี้แจง พร้อมมองว่าคนที่เป็นบุคคลสาธารณะก็ต้องพร้อมชี้แจง ซึ่งก็น่าจะทำความเข้าใจกับประชาชน
อนุทินกล่าวอีกว่า พรรคภูมิใจไทยไม่มีข้อติดใจกับเศรษฐา จากนี้ต้องรอดูว่าในวันที่ 4 สิงหาคม จะมีการพูดถึงเรื่องนี้อย่างไร ย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยยังเป็นพรรคอันดับ 3 เหมือนเดิม และต้องปล่อยให้เป็นไปตามมารยาททางการเมือง ซึ่งขณะนี้พรรคอันดับ 2 กำลังอยู่ในช่วงจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอให้เขาตั้งรัฐบาลให้เรียบร้อย แม้ว่าจะใกล้เวลาเลือกนายกฯ เข้ามาทุกที แต่ก็ต้องดูว่าพรรคเพื่อไทยเชิญเราร่วมรัฐบาลหรือยัง
ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังคงไม่ส่งสัญญาณอะไรมา คุยกันล่าสุดคือเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งผลการหารือในวันนั้น พรรคภูมิใจไทยได้แจ้งข้อจำกัดของพรรคและนโยบายของพรรคอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 และพรรคภูมิใจไทยไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย รวมถึงไม่สามารถร่วมงานกับพรรคก้าวไกลได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวที่พรรคภูมิใจไทยจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเอง หากพรรคเพื่อไทยทำไม่สำเร็จ แต่จะยังคงเสนอชื่อเศรษฐาเป็นนายกฯ เหมือนเดิม อนุทินกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยอะไร การประชุม ส.ส. ในวันนี้ เป็นการประชุมประจำสัปดาห์ตามปกติก่อนการประชุมรัฐสภา
ส่วนกรณี น.ต. ศิธา ทิวารี สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย ระบุว่าพรรคภูมิใจไทยเคยติดต่อพรรคก้าวไกลเพื่อร่วมรัฐบาล อนุทินกล่าวว่า ศิธาทราบได้อย่างไร ขอไปสืบหาก่อนว่าเป็นใคร ยืนยันว่าไม่ใช่ตนเองและ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาฯ พรรคภูมิใจไทยแน่นอน หากไม่ใช่ตนเองหรือกรรมการบริหารพรรคท่านอื่น แสดงว่าไม่มีการโทรไปหาพรรคก้าวไกลแน่นอน การให้ข่าวในลักษณะแบบนี้เราต้องระมัดระวัง เพราะทำให้เกิดความเสียหายกับพรรคภูมิใจไทย เข้าใจดีว่าทุกคนอยากเป็นข่าว แต่ควรจะให้ข่าวโดยไม่พาดพิงคนอื่น
“เราก็พี่น้องกัน เจอกันทีก็หยอกตีข้อศอกกันที ยืนยันว่าเราคนรู้จักกันทั้งนั้น ประเทศต้องสามัคคีกัน หนักนิดเบาหน่อยให้อภัยกันได้ เหมือนลิ้นกับฟัน พบกันทีไรก็เรื่องใหญ่” อนุทินกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคภูมิใจไทยเชื่อเรื่องสูตรจัดตั้งรัฐบาลที่จะผลักพรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า จากที่ติดตามจากสมาชิกพรรคก้าวไกลหลายคนปฏิเสธสูตรนี้ แต่ทั้งนี้การเป็นฝ่ายค้านก็ต้องเป็นฝ่ายค้านที่ต้องตรวจสอบกัน เว้นแต่มีเหตุผลอื่นๆ ที่ประชาชนฟังแล้วประชาชนได้ประโยชน์ ประเทศชาติได้ประโยชน์ การที่ฝ่ายค้านจะมาสนับสนุนรัฐบาลก็เป็นเรื่องที่น่าชมเชย
อนุทินกล่าวทิ้งท้ายว่า คนที่จะเป็นรัฐบาลต้องแถลงอย่างชัดเจน ไม่ใช่ว่าให้พรรคใดโหวตไปก่อน ประชาชนต้องรับรู้รับทราบ ใครที่จะลักไก่ตีกิน นี่เป็นเรื่องบริหารราชการแผ่นดิน ทุกอย่างต้องมีความชัดเจน ตนเองถึงบอกว่าผู้สื่อข่าวไม่ควรใช้คำว่า ‘ดีลลับ’ เพราะเรื่องนี้ประชาชนมีส่วนเกี่ยวข้อง
