วันนี้ (10 กุมภาพันธ์) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน กรณีที่ 7 รัฐมนตรีของพรรคไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปมปัญหาเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า นี่ไม่ใช่ความแตกร้าวของพรรคร่วมรัฐบาล สิ่งที่แสดงออกไปเป็นการพิทักษ์ผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน การทำงานยังเป็นมืออาชีพ แต่ต้องเข้าใจว่าการทำงานย่อมมีเรื่องความเห็นที่ไม่ตรงกันอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีก็ยังสั่งงาน และตนได้รายงานความคืบหน้าเป็นปกติ อย่างล่าสุดมีการเสนอเรื่องเพิ่มค่าตอบแทนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เข้าไปใน ครม. ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ถ้ามีความขัดแย้ง เรื่องนี้ก็ต้องไม่ผ่าน เรื่องนั้นก็ต้องไม่ผ่าน เรื่องรถไฟฟ้า ทางกระทรวงคมนาคมมีข้อกังวลที่ขอให้ปรับปรุง ชี้แจง เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคภูมิใจไทยกำลังเป็นระเบิดในรัฐบาลหรือไม่ อนุทินตอบว่า เราปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ถ้าจะมองว่าเป็นเรื่องผิด ก็ไม่ใช่การทำงานแล้ว ขอย้ำว่าเราไม่ใช่พวกมากลากไป แต่เราทำตามความถูกต้อง เรื่องนี้ไม่ต่างจากระบบสภา ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็แสดงความเห็น ต้องโหวต และถ้าผลโหวตออกมาอย่างไรก็ต้องเดินไปตามนั้น ตนเป็นประธานของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ทุกครั้งที่การประชุมมีความเห็นไม่ตรงกัน ก็ให้สองฝ่ายชี้แจงกันเข้ามาแล้วก็ไปโหวต การทำงานเป็นแบบนี้ เบื้องหลังของการที่เราไม่เข้าร่วมประชุม เราไม่ได้ทำแบบปุบปับ แต่เราทราบมาแล้วว่าจะมีวาระอะไรเข้าบ้าง และเราได้แจ้งท่านนายกรัฐมนตรีแล้วว่า ถ้าเรื่องสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวยังไม่ได้รับคำชี้แจง เราจะขอสงวนสิทธิ์ เพราะไม่อยากเข้าไปโต้เถียง เรารับมติว่ามีเรื่องนี้เข้ามาพิจารณา แต่มีการทำหนังสือให้ความเห็นเป็นการสงวนสิทธิ์ตรงนี้ไว้ และเรา 7 คนคิดว่าถ้าเรื่องนี้มีความสมบูรณ์ก็น่าจะผ่านไปได้ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมีจดหมายหนังสือแสดงเจตจำนง ข้อคิดเห็น ข้อสังเกต ถึง 8 ฉบับไปแล้ว ที่ทำไปเพราะเราต้องการเลี่ยงการปะทะ ระหว่างนี้เราก็รอดูคำตอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการที่อนุทินไม่เข้าร่วมประชุมความพร้อมในการจัดงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) เพราะเหตุใด อนุทินตอบว่า ตนติดประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ซึ่งได้ชี้แจงในท่านนายกฯ ทราบแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และตนก็ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมไปแล้ว
ส่วนการพบกับ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดพะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ในที่ประชุมสภา เพราะต้องเข้าใจว่าทางเดินหลักในนั้นมีทางเดียว ต้องเจอกัน ทักทายกันเป็นเรื่องปกติ และอันที่จริงตนก็เป็นเพื่อนกับท่านมา 20 กว่าปีแล้ว การพูดคุยกันจึงเป็นเรื่องธรรมดา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความพร้อมเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทย อนุทินตอบว่า ทุกพรรคก็มีความพร้อมแล้ว การเลือกตั้งครั้งหน้าต้องแข่งกันที่นโยบาย และเชื่อว่าทุกพรรคก็มีนโยบายในหัวแล้วเช่นกัน สำหรับพรรคภูมิใจไทย ที่ผ่านมาเราเสนอนโยบาย ได้เข้าไปทำงาน และทำนโยบายได้สำเร็จตามแผนอย่างที่เคยพูดไว้แล้ว