×

อนุทิน เผยเพื่อไทยขอเลื่อนคุยร่วมรัฐบาลบ่ายวันนี้ออกไปก่อน มองชูวิทย์โจมตีเศรษฐาเป็นเรื่องส่วนตัว พรรคใครพรรคมัน

โดย THE STANDARD TEAM
03.08.2023
  • LOADING...
อนุทิน ชาญวีรกูล

วันนี้ (3 สิงหาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงทิศทางการโหวตนายกรัฐมนตรี ภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนการพิจารณาสั่งคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ขอให้พิจารณากรณีรัฐสภามีมติไม่เห็นชอบกับการเสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีรอบ 2 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ รวมไปถึงประธานรัฐสภามีคำสั่งให้เลื่อนวาระการโหวตเลือกนายกฯ รอบที่ 3 ในวันที่ 4 สิงหาคมออกไปก่อนว่า สำหรับการเลื่อนโหวตนายกรัฐมนตรีออกไปนั้น ทุกอย่างก็คงขึ้นอยู่กับทางประธานรัฐสภา ในการดูความเหมาะสมและความชัดเจนในส่วนของกรอบกฎหมาย เพื่อที่จะไม่มีปัญหาในอนาคต ยอมรับว่าก่อนที่จะมีประกาศของศาลออกมานั้น ทางพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ได้มีการนัดพูดคุยและหารือกัน แต่เมื่อผลออกมาเป็นแบบนี้ ทางพรรคเพื่อไทยเองก็ได้แจ้งมาว่าอาจจะขอเลื่อนการหารือในวันนี้ไปก่อน จากเดิมที่มีกำหนดการพูดคุยกันในช่วงเวลา 13.00 น. ของวันนี้  

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ดูแล้วค่อนข้างจะไม่ราบรื่นเหมือนครั้งก่อนๆ หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าเป็นไปตามระบบ และเชื่อว่าทุกคนอยากเห็นความชัดเจนของข้อกฎหมาย ส่วนถามว่าจะส่งผลดีต่อพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้มีเวลาในการดีลกับพรรคอื่นๆ ในส่วนนี้ตนเองคิดว่าไม่ได้มองเป็นเรื่องที่ดี เพราะรัฐบาลใหม่ควรได้รับการจัดตั้งโดยเร็ว เพราะ ณ ตอนนี้ตั้งแต่เลือกตั้งมาผ่านไปนานกว่า 3 เดือน แต่กลับไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งในส่วนของรัฐบาลรักษาการเองจะมีอำนาจเต็ม แต่การที่มีรัฐบาลใหม่ที่เป็นทางการคงจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า และสานต่อในงานที่ไม่สามารถทำได้  

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ออกมาโจมตี เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับเรื่องในอดีต ในส่วนนี้พรรคภูมิใจไทยมีการตั้งคำถาม หรือมีการสอบถามไปยังเศรษฐาหรือไม่ รวมไปถึงปมเกี่ยวกับคำพูดในอดีตที่มีการหาเสียงเรื่องมาตรา 112 ในส่วนนี้อนุทินกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยมีการแจ้งและบอกรายละเอียดกับทางพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลไปแล้ว ว่าพรรคภูมิใจไทยมีแนวทางอย่างไร ตามที่ได้แถลงการณ์ไปเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนเรื่องคุณสมบัติของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรคนั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งทางพรรคอื่นไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือยุ่งในมุมของพรรคเขา ส่วนตัวหากทางพรรคแกนนำรับข้อเสนอในส่วนของกรอบของพรรคตนได้ก็ถือว่าจบ แต่ในส่วนของประวัติหรืออดีตของคนที่พรรคอื่นจะเสนอชื่อนั้นไม่ขอก้าวก่าย เป็นเรื่องของพรรคใครพรรคมัน ส่วนประเด็นที่มีการขุดคุ้ยคลิปเสียงของเศรษฐาเกี่ยวกับเรื่องมาตรา 112 ในอดีตช่วงที่มีการหาเสียง ตนมองว่ามันก็เป็นเรื่องที่ทางพรรคและเจ้าตัวจะต้องออกมาชี้แจง แต่เข้าใจในสถานการณ์ ณ ตอนนั้น 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีของพรรคภูมิใจไทยกับพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้มีเงื่อนไขกับพรรคอื่นๆ หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ก่อนที่จะจัดตั้งรัฐบาลจะต้องมีหลักประกันเกี่ยวกับจำนวนเสียงของการโหวตนายกรัฐมนตรีว่าต้องมี 275 เสียงในมือ ตนมองว่าเรื่องนี้ไม่สามารถที่จะพูดได้ว่ามีหลักประกันเป็นคะแนนเสียงเท่านั้นเท่านี้ เพราะไม่ได้มองเป็นหน้าที่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่จะต้องเป็นในส่วนของพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่จะต้องช่วยกัน ย้ำพรรคภูมิใจไทยเน้นคำเดิมตามกรอบที่แถลงไปก่อนหน้านี้ 

 

เมื่อถามว่าหากทางพรรคภูมิใจไทยต้องร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย โดยไม่มีพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทยพร้อมไปพรรคเดียวหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า เดิมการจัดตั้งรัฐบาลกรอบของพรรคภูมิใจไทยก็อยู่ในแถลงการณ์ ส่วนตัวเน้นย้ำต้องไม่ก้าวก่ายเรื่องของพรรคอื่น และยืนยันไร้สัญญาใจว่าหากพรรคภูมิใจไทยไป จะต้องมี 2 พรรคขั้วเดิมพ่วงไปด้วย อย่างที่บอกว่าถ้าแพ็กกับขั้วเดิมก็จะได้เสียงข้างน้อยเราเองจะไม่จัด เพราะพรรคภูมิใจไทยมองว่าอยากให้การจัดตั้งรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นมีความมั่นคง ซึ่งต้องอาศัยเสียงข้างมาก และย้ำไม่เคยมีใครทำกันที่ต้องจูงมือกันไป 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หลายคนมองว่าถ้าไม่มี 2 พรรคที่กล่าวถึงอาจจะไม่สามารถฝ่าด่าน ส.ว. ได้ อนุทินกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของพรรคแกนนำที่จะต้องไปพูดคุยและเจรจา ซึ่งตนเชื่อว่าพรรคแกนนำเองก็คงจะเข้าใจว่าเหตุผลในการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งก่อนติดขัดหรือติดในเรื่องปมอะไร เมื่อได้รับการแก้ไขแล้วก็เชื่อว่าคงไม่มีปัญหา

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising