วันนี้ (29 กันยายน) ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อเวลา 08.00 น. อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางไปตรวจรับมอบวัคซีน Pfizer จำนวน 2 ล้านโดส ซึ่งมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 04.35 น. ที่ผ่านมา โดยสายการบิน DHL เที่ยวบิน 3L 350
ทั้งนี้ อนุทินกล่าวภายหลังเป็นประธานรับมอบวัคซีน Pfizer ว่า วัคซีนที่มาถึงประเทศในวันนี้ เป็นล็อตแรกจากทั้งหมดที่รัฐบาลจัดซื้อมา 30 ล้านโดส ซึ่งทาง Pfizer จะจัดส่งในเดือนตุลาคมอีก 6 ล้านโดส รวมถึงสิ้นเดือนตุลาคมจะมีวัคซีนเข้ามา 8 ล้านโดส และครบทั้ง 30 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้แน่นอน
“วัคซีนทั้ง 30 ล้านโดส จะมีการจัดส่งได้ภายในปีนี้ ส่วนถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้จะมีทั้งหมด 8 ล้านโดส โดยจะเข้ามาทุกวันพุธของทุกสัปดาห์ และ Pfizer จะทำการจัดส่งไปยังที่หมายตามที่กรมควบคุมโรคกำหนดไว้ทั่วประเทศ เพราะราคาที่จัดซื้อมานี้รวมค่าจัดส่งแล้ว การจัดส่งจะเป็นแบบ Door to Door” อนุทินกล่าว
อนุทินกล่าวต่อไปว่า กลุ่มเป้าหมายหลักที่จะฉีดวัคซีน Pfizer คือลูกหลานอายุระหว่าง 12-18 ปี ซึ่งมีอยู่ประมาณ 5 ล้านกว่าคน ใช้วัคซีน 10 ล้านโดส ส่วนที่เหลือก็จะนำไปกระจายให้แก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งกรมควบคุมโรคได้มีการวางแผนการฉีดไว้แล้ว โดยเฉพาะในการฉีดไขว้ตามมติคณะอนุกรรมการด้านเสริมภูมิคุ้มกัน ที่มีมติสูตรการฉีดที่จะทำให้มีภูมิคุ้มกันสูงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการฉีด Sinovac เข็มแรก AstraZeneca เข็มที่ 2 หรือ AstraZeneca เข็มแรก และ Pfizer เข็มที่ 2
หลังจากรับวัคซีนล็อตนี้แล้ว กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จะดำเนินการตรวจรับตามขั้นตอนและเร่งให้มีการกระจายวัคซีนไปยังพื้นที่เป้าหมายต่างๆ ทั่วประเทศเร็วที่สุด โดยคาดว่าจะเริ่มฉีดวัคซีน Pfizer ได้ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
อนุทินกล่าวด้วยว่า สำหรับแผนการจัดซื้อวัคซีน Pfizer ในปีหน้า ก็ได้มีการพูดคุยไปในระดับหนึ่งแล้ว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประเทศไทยว่าจะมีวัคซีนในเทคโนโลยีทุกประเภทเพียงพอในการให้การดูแลและความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน