วันนี้ (18 กรกฎาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงปัญหาการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของระดับกระทรวง ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล ซึ่งตนเองได้ชี้แจงต่อนายกรัฐมนตรี และ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่าในส่วนของพรรคภูมิใจไทยมีความไม่สบายใจตรงจุดไหนบ้าง และคิดว่าควรจะศึกษาข้อมูลอีกเยอะก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะนำกัญชากลับเป็นยาเสพติดหรือไม่
อนุทินกล่าวอีกว่า ตนได้เรียนนายกรัฐมนตรีว่าในส่วนของกระทรวงที่กำกับ และต้องเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ก็ต้องสงวนท่าที และขอโหวตไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าข้อมูลในคณะกรรมการ ป.ป.ส. ยังมีอะไรที่ไม่สมบูรณ์ และคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาก็ชุดเดียวกันกับที่เคยนำกัญชาออกจากยาเสพติด ทั้งในส่วนของโครงสร้างและตัวบุคคล จึงเห็นว่าน่าจะมีข้อมูลอะไรที่เพิ่มมากขึ้นถ้าหากจะตัดสินใจเรื่องสำคัญแบบนี้
ส่วนที่ต้องเรียนนายกรัฐมนตรีเพราะเป็นหัวหน้าส่วนรัฐบาล และเรื่องนี้ไม่ได้นำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ตอบกลับว่า เรื่องนี้ต้องนำไปพูดคุยกัน และจะรับฟังเหตุผลของฝั่งตน ซึ่งนายกรัฐมนตรีตอบมาแบบนี้ตนก็ต้องเคารพ
อนุทินกล่าวอีกว่า “เพราะไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล เป็นเรื่องของคณะกรรมการที่เราอยู่ในนั้น โหวตยังไงก็แพ้ แต่เราก็มีท่าทีของเรา แต่ตอนเอากัญชาออกจากยาเสพติดเมื่อ 2 ปีก่อนเป็นเอกฉันท์”
ส่วนเหตุผลที่รัฐบาลอยากนำกัญชากลับเป็นยาเสพติดเป็นเพราะพรรคเพื่อไทยเคยหาเสียงในเรื่องนี้ไว้หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ทุกพรรคมีนโยบายเป็นของตัวเอง แต่หากมีข้อมูลต่างกันก็นำมาพิจารณา ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นจะต้องพูดคุยกับ สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพราะไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง แม้จะมีความคิดเห็นต่างกัน
“ทุกวันนี้การปลูกกัญชา 6 ต้นก็ยังไม่ผิด เพราะเรื่องของกัญชายังบังคับใช้ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขอยู่ และ ณ วินาทีนี้ กัญชาที่มี THC เกิน 0.2% เท่านั้นถึงจะเป็นยาเสพติด” อนุทินกล่าว
