วันนี้ (10 มิถุนายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (11 มิถุนายน) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งตนเองในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก็จะลงพื้นที่ด้วย
เมื่อทราบว่านายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ ดังนั้นจึงมีการกำหนดการประชุมผู้ว่าราชการ 7 จังหวัดชายแดน มาประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีที่จังหวัดสุรินทร์แทน เดิมที่ตนเองจะประชุมผู้ว่าฯ ในวันดังกล่าวที่จังหวัดอุบลราชการธานี ดังนั้นจึงให้ผู้ว่าราชการทั้ง 7 จังหวัดมารับมอบนโยบายจากนายกรัฐมนตรีที่เดียว ซึ่งตนเองก็จะได้ไม่ต้องมารายงานต่อนายกฯ แต่อาจจะมีเพิ่มเติมข้อปฏิบัติบางส่วน
ส่วนสำรวจหลุมหลบภัยที่กระทรวงมหาดไทยสั่งการให้สำรวจในพื้นที่ชายแดนนั้น อนุทินกล่าวว่า กำลังสำรวจในแต่ละพื้นที่ โดยเป็นการเตรียมความพร้อมในสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่รอให้เกิดเหตุก่อนมาล้อมคอก เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็น ซึ่งจากการสำรวจเบื้องต้น หลุมหลบภัยมีไม่เพียงพอ เมื่อเทียบกับสถานการณ์และบางจุดชำรุดทรุดโทรมดังนั้นเรื่องนี้จำเป็นต้องมีสำหรับเด็กเล็ก ชาวบ้าน ที่บางครั้งเมื่อมีเหตุฉุกเฉินโจมตีหรือสู้รบเกิดขึ้น ก็ต้องให้ความมั่นใจว่าสามารถป้องกันภัยให้กับประชาชนได้ ซึ่งขณะนี้กำลังสำรวจว่ามีกี่หลุมหลบภัยในพื้นที่ชายแดน
“เบื้องต้นเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่ใช่สิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ แต่ทำให้เกิดความปลอดภัยและทำให้มีจำนวนเพียงพอถ้ามีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ไม่ต้องมากังวลในเรื่องนี้ว่าจะมีอันตรายกับประชาชนหรือไม่” อนุทินกล่าว
ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถใช้งบฉุกเฉินของจังหวัดหรือต้องของบจากส่วนกลางนั้น อนุทินกล่าวว่า เรื่องงบค่อยว่ากันแต่เรื่องนี้จำเป็นเร่งด่วนเมื่อสำรวจเสร็จเรียบร้อยแล้วมีทางเลือกก็ใช้งบได้ ซึ่งหากใช้งบกลางก็ขอนายกรัฐมนตรี แต่ในขณะนี้ปลายปีงบประมาณ 2568 เมื่อสำรวจแล้วมีงบเหลือจ่ายหรือไม่เพื่อนำไปซ่อมแซม ก็อาจจะนำไปใช้ จะได้ไม่ให้เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณในปีถัดไป
อนุทินยังกล่าวว่า การหารือในที่ประชุม ครม. ในปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่มีปัญหาใดๆ เช่นเดียวกับการปรับ ครม. ก็ไม่มีอะไรด้วย