วานนี้ (12 เมษายน) ที่จังหวัดอ่างทอง อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางลงพื้นที่จังหวัดอ่างทอง เพื่อร่วมเปิดงานเทศกาลสงกรานต์ และได้พบกับบ้านใหญ่ปริศนานันทกุล ว่า ภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ได้เชิญให้ตนมาร่วมในงานถือว่าได้มาเที่ยว และร่วมงานประเพณีที่อ่างทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ ซึ่งระหว่างทางได้เห็นประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา มีทั้งความสุข และรอยยิ้ม แม้ว่าการจราจรจะติดขัด และถ้าคนไทยท่องเที่ยวในประเทศ ไม่เดินทางไปที่เที่ยวต่างประเทศ ก็จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศเกิดการกระจายตัว
ขณะที่ตัวเลขการรายงานอุบัติเหตุของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. ดีขึ้นหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า จากการเทียบสถิติวันต่อวันพบว่าต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งเราไม่ได้ถือสถิติเหล่านี้เป็นสำคัญ โดยต้องยึดกฎจราจร และมีความพร้อมในการเดินทาง ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้องไม่ขับยานพาหนะ และอย่างที่ตนเคยเน้นย้ำถนนสายหลักไม่น่ากังวลเท่าถนนสายรอง และยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ก็ยังเป็นรถจักรยานยนต์ รถกระบะ และรถไม่มีหลังคา รวมไปถึงไม่สวมใส่เครื่องมือนิรภัย อย่างเข็มขัดนิรภัย และหมวกกันน็อก ซึ่งเราต้องขอความร่วมมือจากประชาชน เพราะแม้ว่าจะขอความร่วมมือเท่าไหร่ก็ไม่มีน้ำหนักเท่ากับประชาชนให้ความร่วมมือ
เมื่อถามการเดินทางมายังจังหวัดอ่างทองและได้พบกับสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีความเห็นเรื่องร่างพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) วันนี้ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องการเมืองหรือไม่ อนุทินถึงกลับหันไปชี้หาสมศักดิ์ ภราดร และ กรวีร์ ปริศนานันทกุล ว่าอยู่กับประชาชนตัวเล็กนิดเดียว มีแต่จิตใจที่รับใช้ประชาชนทั้งนั้น ที่ทำให้พวกเขาได้รับการไว้วางใจ ให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อเราทำงานการเมือง ประเทศชาติ และประชาชนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ก่อนปิดสมัยประชุมสภา ภราดรได้กล่าวทิ้งท้ายเป็นนัย ในลักษณะเหมือนว่าจะไม่มีการประชุมในสมัยหน้า ภราดรถึงกับเบรกว่าวันนี้วันสงกรานต์ การเมืองอย่าเพิ่งเลยดีกว่า วันนี้หัวหน้าพรรคมาเที่ยวงานสงกรานต์ ก่อนที่อนุทินจะกล่าวเสริมว่า บางทีอย่าไปซีเรียสอะไรมาก เพราะตอนที่ท่านพูด คนก็หัวเราะ ขำ ซึ่งเป็นเพียงการผ่อนคลายบรรยากาศเท่านั้น และเป็นการเตือนสติ ไม่ให้ซีเรียสอะไรมาก ขอให้รักกันเอาไว้
ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าการประชุมสภาในสมัยหน้าจะยังมีอยู่ใช่หรือไม่ อนุทินรีบตอบทันทีว่า มีสิ